tag:blogger.com,1999:blog-29166667159641913982024-03-20T20:36:02.799+07:00โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ อุตรดิตถ์เลขที่ 8 ถ.จิตเพลิน ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ 53000
อีกสื่อกลางระหว่างครู นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน สามารถติดต่อสอบถามกันได้ที่นี่ได้ทุกเวลาและสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมงUnknownnoreply@blogger.comBlogger55125tag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-34707560907265796272011-11-17T14:03:00.001+07:002011-11-17T14:03:36.113+07:00อาคารเรียน<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/381050_258851634162078_100001117295464_707045_1114737896_n.jpg" imageanchor="1" style="margin-left:1em; margin-right:1em"><img border="0" height="505" width="641" src="http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/381050_258851634162078_100001117295464_707045_1114737896_n.jpg" /></a></div>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-5708567820132907572010-05-14T15:03:00.003+07:002010-05-14T15:11:06.483+07:00เรื่องเร้นลับในอวกาศแม้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบล็อกของโรงเรียน แต่อยากนำมาลงให้ได้อ่านกันครับ ลองพิจารณาไปด้วยว่ามันจะจริงมากน้อยแค่ไหน<br /><br /><span style="color:#ff0000;">10 เรื่องเร้นลับในอวกาศ</span><br /><br />เรื่องน่าขันเกี่ยวกับการค้นพบ คือว่ามันมักมีความลี้ลับใหม่ๆ ตามมาด้วย ปีนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น เมื่อการพบในวิทยาศาสตร์อวกาศที่เด่นมากมาย สร้างปัญหาให้นักดาราศาสตร์ที่มองหาความหมาย<br /><br />ต่อไปนี้เป็น 10 เรื่องลี้ลับที่นักดาราศาสตร์กำลังครุ่นคิดใน พ.ศ.2546<br /><br />1)พลังงานมืด ไม่มีใครทราบว่ามันเป็นอะไรกันแน่ แต่มันเป็นการผลักดัน ขณะที่แรงโน้มถ่วงยึดสิ่งต่างๆ เข้าหากันในแต่ละแห่ง (ภายในดาราจักรและระหว่างดาราจักรในกระจุกดาราจักร) มีแรงที่ไม่รู้จักกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังและทั่วเอกภพ เพื่อดึงให้ทุกสิ่งออกห่างจากกัน เพิ่งสังเกตกันได้ไม่นานมานี้ว่า เอกภพกำลังขยายตัวด้วยอัตราเร็วเพิ่มขึ้น เมื่อไม่พบร่องรอยว่ามันคืออะไร ก็เรียกมันว่าพลังงานมืด ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ได้ว่า พลังงานมืดกำลังทำงานอยู่ การคำนวณได้ทำให้ดีขึ้น แรงผลักมีอิทธิพลต่อเอกภพ มี 65% มวลมืดหรือมวลสารมืด(dark matter) ที่แปลกและไม่สามารถเห็นได้มี 30% ของเอกภพ ทำให้เอกภพมีแค่ 5% ของมวลและพลังงานตามปกติ การขยายตัวด้วยความเร่งให้แนวคิดว่า ดาราจักรทั้งหมดจะมีชะตากรรมแบบไม่มีที่สิ้นสุด หาจุดจบไม่ได้<br /><br />2)น้ำบนดาวอังคาร ดาวอังคารยังปกปิดความลี้ลับไว้ได้ ไม่เปิดเผยกันง่ายๆ มีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารหรือไม่? ใครจะตอบได้ถูก ในเมื่อนี่ยังเป็นคำถามของนาซ่า และนักวิทยาศาสตร์ดาวอังคารแต่ก่อนตอบคำถามนี้มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำเหลวที่ชีวิตต้องการ ทั้งๆ ที่มีการค้นพบสำคัญเกี่ยวกับน้ำแข็ง ในพ.ศ.2545 แต่ก็ไม่มีใครนึกภาพออกว่ามันอยู่ในสภาวะเหลวได้อย่างไร มีร่องรอยเมื่อเดือนธันวาคมเป็นริ้วรอยมืดบนผิวเป็นเกลือ และน้ำไหล แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายไม่มั่นใจหรอก ตอนนี้ยานอวกาศโอเดเซย์(Odyssey ของนาซ่า)<br />กำลังโคจรรอบดาวอังคาร จะตามล่าหลักฐานมาให้<br /><br />3)ใจกลางทางช้างเผือก บางสิ่งบางอย่างกำลังถูกกลืนที่หลุมดำใจกลางดาราจักรทางช้างเผือก การเฝ้าดูดวงดาวโคจรรอบหลุมดำของทางช้างเผือก ดำเนินไปแม้เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นหลุมดำที่นั่น บริเวณรอบหลุมดำมีความกัมมันต์หรือความปั่นป่วนรุนแรง จากหอสังเกตการณ์จันทรา ที่แสดงแล้วเมื่อต้นพ.ศ.2545<br />แต่หลุมดำก็ไม่ได้สวาปามมวลมากพอจนคายรังสีเอกซ์พลังงานสูง อย่างที่เห็นในหลุมดำมวลมาก พฤติกรรมของหลุมดำแสดงความแตกต่างมากมาย จนนักวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าใจการศึกษา เมื่อเดือนมกราคม 2545 บอกว่าหลุมดำ 2 หลุม รวมกันอาจทำตัวเหมือนเป็นสวิทช์ปิดเปิดของความเป็นกัมมันต์ มีประกาศการสังเกตการณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน แสดงหลุมดำ 2 หลุมกำลังรวมกัน จะต้องอธิบายความแตกต่างระหว่างหลุมดำแบบธรรมดาของเรา และหลุมใหญ่ที่สว่างไสวรอบดาราจักรไกลๆ<br /><br />4)กำเนิดของชีวิต มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่จะทำงานด้วยได้ โลกไม่ได้มีการบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ขาดแคลนความคิดกว้างไกล ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เห็นกันว่าชีวิตสามารถอยู่รอดได้ ด้วยการเดินทางจากดาวอังคารมายังโลก มันอยู่ในชิ้นส่วนที่หลุดจากดาวอังคารหลังถูกดาวเคราะห์น้อยชนเข้าให้ เมื่อพฤศจิกายนนี้พบว่าหินจากดาวอังคารมายังโลกราวเดือนละก้อน มีแมลงเล็กๆ ภายในฝุ่นของดาวหาง รายงานที่ได้รับการสนับสนุนเมื่อเดือนธันวาคมพบว่า มีสัตว์เล็กๆ จากอวกาศเข้ามาในบรรยากาศโลก นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นว่าชีวิตบนโลกอาจอยู่ในซุปร้อนของสารชีวะเคมี ส่วนที่เป็นน้ำและสารอินทรีย์อาจมาจากอวกาศ โลกคงไม่ต่างจากเครื่องฟักไข่หรือเครื่องเพาะเชื้อ ชีวิตที่นี่อาจเริ่มต้นในที่ไกลแห่งใดแห่งหนึ่ง อาจเคยอยู่บนดาวอังคารหรืออยู่รอบๆ ดาวดวงอื่นมาก่อน<br /><br />5)ความลับของดวงจันทร์ ไม่มีวัตถุท้องฟ้าในที่ใดที่จะศึกษาได้ดีกว่าดวงจันทร์ เราไปที่นั่น เลือกเฟ้น และนำหินกลับบ้าน แต่ดวงจันทร์ก็ยังคงเก็บความลี้ลับไว้มากมาย ที่ดูแปลกกว่าเก่า คือเรื่องหินบนดวงจันทร์ที่เคยเป็นของโลกมาก่อน มันหลุดออกจากโลกไปได้เมื่อหลายพันล้านปี เมื่อดาวเคราะห์น้อยชนโลกเข้าให้ ที่ๆ เก็บข้อมูลของโลกอยู่บนดวงจันทร์ ?! ความพยายามเพื่อหาปริมาณ เมื่อเดือนกรกฎาคมพบ มวล 11,000 ปอนด์ จากโลกอยู่ห่างกันไม่กี่นิ้วตามพื้นผิวทุกตารางไมล์บนผิวดวงจันทร์ หินโลกบนดวงจันทร์น่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบของโลกได้ ตอนโลกอายุยังน้อย บรรยากาศโลกและอาจเป็นกำเนิดของชีวิตด้วย ที่จะได้ข้อมูลนี้หาไม่ได้จากที่อื่นใดอีกนอกจากดวงจันทร์ เพราะโลกไม่เหมือนดวงจันทร์ ดวงจันทร์เงียบสงบไม่มีการเคลื่อนไหวภายใน แต่โลกนำมวลจากภายในขึ้นมาที่ผิวใหม่ มีการพับหินดินที่เปลือกโลกเข้าไปข้างในและหลอมละลายเกินกว่าจะรับรู้ได้ ไม่มีใครแน่ใจว่าควรให้มวลของโลกอยู่ที่ดวงจันทร์นั่นต่อไป หรือควรเอามันกลับคืนมา การวิจัยครั้งใหม่นี้จะบังคับให้มนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์ครั้งใหม่<br />จอห์น อาร์มสตรอง จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันบอกว่า นี่จะเป็นวิธีเร็วและถูกที่สุดที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับกำเนิดดาวเคราะห์ และการเกิดระบบสุริยะทั้งหมดUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-49143609591231324512010-05-14T14:53:00.002+07:002010-05-14T14:58:15.563+07:00โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ อุตรดิตถ์ เปิดเทอมปีการศึกษา 2553 วันที่ 17 พค 53เปิดเทอมใหม่ ประจำปีการศึกษา 2553 วันที่ 17 พฤษภาคม 2553 นี้นะครับ<br /><br />ส่วนรายชื่อนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - 6 และระดับมัธยมนั้น สามารถมาตรวจสอบรายชื่อได้ที่ใต้อาคารที่นักเรียนจะต้องขึ้นชั้นไปเรียน โดยมีกำหนดประกาศรายชื่อให้ทราบในวันที่ 15 - 16 พค. 2553 แต่อาจจะมาดูในตอนเย็นของวันที่ 14 พค ก็ได้ <br /><br />ในการมาโรงเรียนวันแรก ก็ให้สวมใส่เครื่องแบบและกระเป๋าหนังสือมาก่อน เพื่อมารับตารางเรียนและรู้จักห้องเรียนห้องใหม่ เพื่อนใหม่ ครูใหม่ และอะไรอีกหลายอย่างที่ใหม่ๆครับUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-56296529740378156412010-02-27T14:06:00.000+07:002010-02-27T14:07:46.826+07:00โครงการทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล โดยเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์<a title="recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130778/recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130778.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125031035&Signature=yyMsTuOiZTe9%2BZPRH0hATv0%2FzKg%3D" border="0" /><br /><em>recycle</em></a><br /><br />เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดโครงการทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิลและกิจกรรมร่วมทำความดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2552<br /><br />นายประเมิน มากมี รองนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ร่วมกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดโครงการทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เพื่อเป็นการจัดกิจกรรมร่วมทำความดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม และเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย 4 ธันวาคม<br /><br />โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ กำหนดจัดให้มีการทอดผ้าขยะรีไซเคิล ในวันที่ 9 ธันวาคม 2552 เวลา 08.40 น. ซึ่งจะมีขบวนแห่ต้นผ้าป่าขยะรีไซด์เคิล จากสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหักมายังบริเวณการจัดงานที่บริเวณสนามเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งกิจกรรมจะมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างประชาชน หน่วยงานภาครัฐและสถาบันทางศาสนาในชุมชน<br /><br />โดยการเชิญชวนรวบรวมขยะรีไซเคิลในชุมชน/โรงเรียน นำมาเป็นปัจจัยในการทอดผ้าป่าแทนการใช้เงินหรือสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นการรณรงค์ลดปริมาณขยะที่จะนำไปกำจัดให้มีปริมาณน้อยลง และสามารถนำขยะมาแปรสภาพเป็นเงินเพื่อถวายให้วัด โรงเรียน และชุมชน โดยการประสานกับร้านรับซื้อของเก่า/ขยะรีไซเคิล เข้ามารับซื้อ<br /><br />นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นรณรงค์เสริมสร้างจิตสำนึกและความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนในชุมชนและนักเรียนได้รู้จักวิธีการคัดแยกขยะ สามารถลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดและช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่ง<br /><br />เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จึงขอเชิญชวนข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนร่วมทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล ตามเส้นทางที่ขบวนผ่านและร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพ่อแห่งชาติและวันสิ่งแวดล้อมไทย ในวันที่ 9 ธันวาคม 2552 ระหว่างเวลา 09.00 - 14.00 น.<br /><br />จัดผ่านไปแล้วครับ ซึ่งโครงการครั้งนี้ได้มีการประกวดขบวนแห่ด้วย<br /><br />รถแห่ผ้าป่า<br /><br /><a title="recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130796/recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130796.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125031053&Signature=%2BxZ9IrhbBxoSfuutAqA4ei2%2FCRA%3D" border="0" /><br /><em>recycle</em></a><br /><br /><a title="recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130797/recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130797.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125031064&Signature=RK3gEV9WzbhWZ2fO%2FIs8sqUgnSE%3D" border="0" /><br /><em>recycle</em></a><br /><br /><a title="recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130772/recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130772.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125031025&Signature=QFntOHQ0CCQmT%2By3qTvQfEB5Hbg%3D" border="0" /><br /><em>recycle</em></a><br /><br /><a title="recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130766/recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130766.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125031004&Signature=Hy0FqLjx%2F6OCcTrLoISIvGmt%2BTc%3D" border="0" /><br /><em>recycle</em></a><br /><br /><a title="recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130758/recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130758.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125030994&Signature=Gh8evSIN5SHPViDeQQLVj1ExvEs%3D" border="0" /><br /><em>recycle</em></a><br /><br /><a title="Recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130715/Recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130715.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125030930&Signature=qhcv0jiNvNhsOoJXqMZ%2FFCyzQr4%3D" border="0" /><br /><em>Recycle</em></a><br /><br />นักเรียนร่วมเดินขบวนโดยใช้ขยะรีไซเคิลมาช่วยทำชุด<br /><br /><a title="recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130785/recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130785.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125031090&Signature=Fq9PaKb8vd%2B02FXgTSrM5Df9WGE%3D" border="0" /><br /><em>recycle</em></a><br /><br /><a title="Recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130723/Recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130723.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125030942&Signature=qNJTN2DThy7woeQW5diKFfQ3hG4%3D" border="0" /><br /><em>Recycle</em></a><br /><br />นางงามรีไซเคิล(เฉพาะชุดนะ)<br /><br /><a title="Recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130727/Recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130727.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125030960&Signature=2samuUmwPRQEtHQsVSs63hsyM%2Fg%3D" border="0" /><br /><em>Recycle</em></a><br /><br />หนูโชว์ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากขยะค่ะ<br /><br /><a title="Recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130731/Recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130731.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125030973&Signature=29uGBi7jaCAdTGkFvBSRUl1CRgI%3D" border="0" /><br /><em>Recycle</em></a><br /><br />หมวกรีไซเคิล กำลังฮิต<br /><br /><a title="Recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130720/Recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130720.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125030940&Signature=4rBXQ8jgXICb59JVKnAGRBDv%2BzI%3D" border="0" /><br /><em>Recycle</em></a><br /><br />เป็นกำลังใจด้วยนะคะ<br /><br /><a title="Recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130684/Recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130684.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125030921&Signature=1Pk0eSaJaV7HS7%2F9%2BqBqjlrfS5k%3D" border="0" /><br /><em>Recycle</em></a><br /><br /><a title="recycle, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/1130749/recycle"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania1130749.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2125030986&Signature=emDp688Tb%2Fycnagxw80ZsVampEQ%3D" border="0" /><br /><em>recycle</em></a><br /><br />อย่าลืมเรามาช่วยกันลดขยะ และถ้าขยะใดที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ อย่าลืมช่วยกันแยกก่อนทิ้งด้วยนะคะ<br /><br />รักนะ...โลกผู้ให้ชีวิต<br /><br /><a href="http://www.flixya.com/gallery/50323/theseotitle" target="_blank">คลิกดูรูปภาพวันเดินรณรงค์ผ้าป่าขยะรีไซเคิลทั้งหมด...คลิกที่นี่ค่ะ</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-22793468553269907172010-02-27T14:04:00.000+07:002010-02-27T14:06:05.872+07:00รายชื่อนักเรียน ป. 6/8 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐรายชื่อนักเรียน ป. 6/8 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์<br />อยากดูรูปและข้อมูลให้คลิกที่ชื่อได้เลยครับ<br /><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=42" target="_top">เลขที่ 43 เด็กหญิงกมลชนก ถิ่นแสนดี</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=44" target="_top">เลขที่ 45 เด็กหญิงรสสุคนธ์ สุขสา</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=41" target="_top">เลขที่ 42 เด็กหญิงอภิษฐา เทียนหอม</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=43" target="_top">เลขที่ 44 เด็กหญิงกุลธิดา ขำทับทิม</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=39" target="_top">เลขที่ 40 เด็กหญิงปนัดดา ดวงบังเกิด</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=35" target="_top">เลขที่ 36 เด็กหญิงกฤษณา กามะ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=26" target="_top">เลขที่ 26 เด็กหญิงชนฐิตา กัลปพฤกษ์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=27" target="_top">เลขที่ 27 เด็กหญิงนิรชา ปาด้วง</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=28" target="_top">เลขที่ 28 เด็กหญิงปิยะธิดา สมจิตร์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=29" target="_top">เลขที่ 29 เด็กหญิงมิ่งนภา แก้วเพชรสุวรรณ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=21" target="_top">เลขที่ 21 เด็กชายเจษฎา อุดพ่วง</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=18" target="_top">เลขที่ 18 เด็กชายอนุชาติ เชื้อเดช</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=6" target="_top">เลขที่ 6 เด็กชายสุธีรชาต อ่อนนิวัน</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=20" target="_top">เลขที่ 20 เด็กชายจุลกมล ลักษณา</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=11" target="_top">เลขที่ 11 เด็กชายนัฐวุฒิ เริงสำราญ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=23" target="_top">เลขที่ 23 เด็กชายรัฐชนพัฒน์ อินทร์ปัญญา</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=4" target="_top">เลขที่ 4 เด็กชายนิทัศน์ ใบบัว</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=17" target="_top">เลขที่ 17 เด็กชายนันทิพัฒน์ ยอดทะเล</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=12" target="_top">เลขที่ 12 เด็กชายเพชรสยาม แตงเพ็ชร</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=19" target="_top">เลขที่ 19 เด็กชายทศพร เนียมทัด</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=24" target="_top">เลขที่ 24 เด็กชายนำโชค มากพันธ์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=25" target="_top">เลขที่ 25 เด็กชายบุญญพร พลขุนทด</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=15" target="_top">เลขที่ 15 เด็กชายอรรถพล เพ็งเปลี่ยน</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=14" target="_top">เลขที่ 14 เด็กชายธีรุตม์ ครุฑเมือง</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=13" target="_top">เลขที่ 13 เด็กชายธนกร มากทิมทอง</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=10" target="_top">เลขที่ 10 เด็กชายธงธรรม คมขำ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=16" target="_top">เลขที่ 16 เด็กชายสันติ ปานคำ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=3" target="_top">เลขที่ 3 เด็กชายณัฐพล ขุนจ้อน</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=5" target="_top">เลขที่ 5 เด็กชายวิษณุ คำเพ็ง</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=7" target="_top">เลขที่ 7 เด็กชายธนพล วงศ์เสนา</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=22" target="_top">เลขที่ 22 เด็กชายสิริชัย จันทร์สว่าง</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=1" target="_top">เลขที่ 1 เด็กชายพิชัย ลิ้มอยู่สวัสดิ์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=2" target="_top">เลขที่ 2 เด็กชายณัฐพงศ์ มายรรยงค์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=8" target="_top">เลขที่ 8 เด็กชายธนาธิป เอี่ยมประพันธ์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=9" target="_top">เลขที่ 9 เด็กชายวุฒิภัทร อ่องอ้น</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=45" target="_top">เลขที่ 46 เด็กหญิงชญาณี สินสิทธิ์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=38" target="_top">เลขที่ 39 เด็กหญิงกมลธร ผาเจริญ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=40" target="_top">เลขที่ 41 เด็กหญิงสิริลักษณ์ ศรีคมขำ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=37" target="_top">เลขที่ 38 เด็กหญิงกัญญาณัฐ รุ่งเรือง</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=36" target="_top">เลขที่ 37 เด็กหญิงอมิตา ดอนเทศน์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=30" target="_top">เลขที่ 30 เด็กหญิงอัมพกาศรณ์ เมฆดำ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=34" target="_top">เลขที่ 35 เด็กหญิงอภิญญา สิทธิวิรุฬห์</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=33" target="_top">เลขที่ 33 เด็กหญิงจีรนันท์ แขงามขำ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=32" target="_top">เลขที่ 32 เด็กหญิงศุภากร ศุภศิริภิญโญ</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=31" target="_top">เลขที่ 31 เด็กหญิงธัญวรรณ สุขจิตร</a><br /><a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=02-2009&date=17&group=76&gblog=46" target="_top">เลขที่ 47 เด็กหญิงเกศมณี พุทธิมา</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-54050780193217109012010-02-27T14:01:00.000+07:002010-02-27T14:03:58.020+07:00งานอำลาอาลัยนักเรียนชั้น ป.6 และ ม. 3 ปี 2551<b>งานอำลาอาลัยนักเรียนชั้น ป.6 และ ม. 3</b><br /><br />เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมาโรงเรียนได้จัดกิจกรรมอำลาอาลัย ด้วยใจรัก ให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 เลยนำภาพบรรยากาศมาฝากนักเรียนนะครับ<br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763348/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763348.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603661&Signature=hS%2FOSsP833V%2BdOxG8dMwfzD%2BfG8%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763347/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763347.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603824&Signature=McaAo0CSH5PqGuR0L7OirfQoYSQ%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763346/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763346.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603829&Signature=QFPji6QxQl2rTYzv%2FnGpSl8YAUA%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763344/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763344.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603836&Signature=uSMat0DL540kQMzLv9l3sEwDsKM%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763342/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763342.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603845&Signature=2mDlxwa4ddH4yxS9XfhPn6LbwPM%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763343/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763343.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603841&Signature=W1fiEEQp6LzLCbORFnBnIDaqcEs%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763341/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763341.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603855&Signature=%2BwpjeH1Lg7Omv%2Fe%2FBm%2F5%2Bp7QHCc%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763332/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763332.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603957&Signature=I4ZVE7cG7RwL73rxBeOIygOiN8k%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763336/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763336.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603969&Signature=XCglTIg25JLhVTht%2FyaXXEG%2BQW0%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a><br /><br /><a title="umlar arlai, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/763329/umlar_arlai"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania763329.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2101603977&Signature=ARHB%2FqlwPxL6Jv%2BeYAW%2FCVqQxZ8%3D" border="0" /><br /><em>umlar arlai</em></a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-64384308693747526362010-02-27T13:57:00.000+07:002010-02-27T14:01:24.719+07:00ดาวน์โหลดรูปเพื่อนๆ ป.6/8 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จ.อุตรดิตถ์ดาวน์โหลดรูปเพื่อนๆ ป.6/8 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จ.อุตรดิตถ์<br /><br /><br />สำหรับนักเรียนชั้นป.6/8 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ เมื่อปีการศึกษา 2551 (ที่จบไปแล้ว) ได้กลับเข้ามาหน้านี้อีกครั้ง ครูขอแนะนำว่าครูได้นำรูปของทุกคนมาให้ดาวน์โหลดแล้ว เผื่อว่าบางคนอาจจะคิดถึงเพื่อนก็ขอให้ดาวน์โหลดไปได้เลยนะ<br /><br />วิธีการโหลด<br />- คลิกที่ลิงค์ "คลิกดาวน์โหลดรูปเพื่อน ป. 6/8"<br />- จะมีหน้าจอขึ้นมาใหม่ รอประมาณ 15 วินาทีมันจะมีหน้าต่างใหม่ปรากฏปุ่ม dowmload เราก็คลิกดาวน์โหลดที่ปุ่มและ Save ไว้ที่เราต้องการ <br />- หรือรอ 15 วิ ก็คลิกที่ตัวหนังสือที่บอกว่า Skip this page ข้ามหน้านั้นไปก็ได้แล้วคลิกปุ่ม ดาวน์โหลดแล้วเซฟไฟล์ไว้<br />- ไฟล์ที่ได้เป็นไฟล์บีบอัดก็ให้แตกออกมานะครับ<br />- รหัสผ่านคือ <br /> <br /><br /><a href="http://50fdece8.linkbucks.com/">คลิกดาวน์โหลดรูปเพื่อน ป. 6/8</a><br /><br /><a href="http://zookzon.exteen.com/20090912/winrar-winrar-1">ถ้าหากโหลดมาแล้วแตกไฟล์ไม่เป็นให้ดูวิธีการแตกไฟล์ที่นี่</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-9539831181396588972008-11-22T08:24:00.000+07:002008-11-22T08:29:19.379+07:00หนูขอจัดสวนถาดเน้อครูได้ตามความต้องการ เรียนเรื่องระบบนิเวศก็เลยให้สำรวจแล้วนำมาออกแบบระบบนิเวศ<br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/614416/students_task" title="student's task, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania614416.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091317158&Signature=4hspo4vE7z4J5QcKwoQzEGlrCjU%3D" alt="" border="0"><br \><em>student's task</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/614419/students_task" title="student's task, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania614419.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091317225&Signature=Nhaqj8osddmYWbPzXcIXehj7Uvc%3D" alt="" border="0"><br \><em>student's task</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/614422/students_task" title="student's task, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania614422.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091317238&Signature=vCMeOwNeIKdf%2FZOq23u7IV33Cx4%3D" alt="" border="0"><br \><em>student's task</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/614427/students_task" title="student's task, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania614427.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091317258&Signature=%2FT4upHim09xK471TxhRNUw4a1M0%3D" alt="" border="0"><br \><em>student's task</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/614432/students_task" title="student's task, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania614432.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091317272&Signature=NznyLhl3D8MxIMU9wrczOQ3yo%2F8%3D" alt="" border="0"><br \><em>student's task</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/614437/students_task" title="student's task, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania614437.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091317285&Signature=6y442j8cgptQKXUjEdUTF37yst0%3D" alt="" border="0"><br \><em>student's task</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/gallery/26456/theseotitle">ชมเพื่อนๆ และผลงานทั้งหมดที่นี่..คลิกสิ</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-73583544771675408242008-11-10T17:58:00.000+07:002008-11-22T08:24:08.670+07:00รวมผลงานการวาดภาพโปสเตอร์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ<p>นำผลงานเด็กที่คัดมาโดยเฉพาะให้ชมฝีมือกัน แม้จะไม่ได้สวยแบบมือหนึ่ง แต่ความคิดในการสื่อออกมาเกี่ยวกับการรณรงค์สภาพแวดล้อม หรือมลพิษต่างๆ ก็ดูไม่น้อยหน้าหลายคนทีเดียวครับ</p><br /><br /><a title="poster of Tha-It'student, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/576683/poster_of_Tha-Itstudent"><img alt="" src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania576683.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091316728&Signature=LYTk7APbQAQW89DgI%2BfXGfnfCrs%3D" border="0" /><br /><em>poster of Tha-It'student</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/576697/poster_of_Tha-Itstudent" title="poster of Tha-It'student, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania576697.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091316874&Signature=dCcDRTbC93u9QM0C34jaUDPRPyI%3D" alt="" border="0"><br \><em>poster of Tha-It'student</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/576706/poster_of_Tha-Itstudent" title="poster of Tha-It'student, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania576706.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091316897&Signature=su0fsxwq%2BWHFTHm%2BWrL4bvwXKiM%3D" alt="" border="0"><br \><em>poster of Tha-It'student</em></a><br /><br /><a href="http://www.flixya.com/photo/576731/Poster_of_Tha_-_it_school" title="Poster of Tha - it school, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania576731.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2091316925&Signature=CNRmvGZ7pn1cc4rWrieLG%2BeOKZQ%3D" alt="" border="0"><br \><em>Poster of Tha - it school</em></a><br /><br />ดูทั้งหมดที่<br /><a href="http://www.flixya.com/gallery/24937/theseotitle">คลิกคลิกที่นี่</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-53373221062903022292008-11-06T07:30:00.000+07:002008-11-06T07:32:20.713+07:00ช่วงช่วง หลินฮุ่ย<div class="node"><div class="content"><br /><p>เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 51 ได้มีโอกาสไปเชียงใหม่ ก็เลยไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ก็เลย... นำภาพน่ารักๆ ของหมีแพนดาช่วงช่วงและหลินฮุ่ยในอิริยาบถที่กำลังหยอกล้อเล่นกันอย่างสนุกสนาน ตอนนี้กำลังตัดต่อวิดีโอคลิปอยู่ จะนำมาให้ชมในไม่ช้านี้ครับ ดูภาพเหล่านี้ไปพลางๆก่อนนะครับ คนแนะนำประกาศว่า แพนดาใช้เวลา 14 ชั่วโมงในการกินอาหาร 9 ชั่วโมงในการนอนหลับพักผ่อน ที่เหลือ 1 ชั่วโมง เล่น และ กิน ผมก็โชคดรสิที่ได้เห็นมันเล่น วิ่งไล่จนเหนื่อยเนี่ย <a title="panda, Free Image Hosting, Photo and Video Sharing at Flixya" href="http://www.flixya.com/photo/553821/panda"><img src="http://media-content.flixya.com.s3.amazonaws.com/files/handbillmania553821.jpg?AWSAccessKeyId=1TKE66PETJJHG8051M02&Expires=2088707454&Signature=L5xIDVFYAaD1%2BlGnKQeqkH5L3t0%3D" border="0" /><br /><br /><em>panda</em></a> ชมทั้งหมดที่ <a href="http://www.flixya.com/photos/u/handbillmania/b/">คลิกที่นี่</a> ส่วนด้านล่างนำมาฝากกันครับ น่ารักๆ<br /><br /><object height="344" width="425"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/FzRH3iTQPrk&hl=en&fs=1"><param name="allowFullScreen" value="true"></p><br /> <br /> <br /></object><br /><br /><a href="http://handbillmania.flixya.com/">ชมวีดีโอทั้งหมดที่นี่</a></p></div></div>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-64083899547042354152008-11-06T07:28:00.001+07:002008-11-06T07:28:31.388+07:00โรคสมาธิสั้นคุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมลูกน้อยของคุณถึงซนสุดๆ ห้ามเท่าไหร่ไม่ฟัง เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และมีปัญหาทางด้านการเรียน คุณครูเรียกผู้ปกครองเข้ามาพบบ่อยๆ ตลอดจนปัญหาเด็กทะเลาะกัน อาการเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าสังเกตว่าลูกตัวน้อยของเราผิดปกติหรือไม่.เรามาดูกันค่ะกับ โรคสมาธิสั้น <br /><br />อาการที่ควรพิจารณาว่าเด็กผิดปกติหรือไม่<br /> - เด็กวอกแวกง่าย นั่งหยุกหยิก หยิบโน่นจับนี่ตลอด<br /> - ชอบชวนเพื่อนคุย และลุกไปโน่นมานี่บ่อย ๆ<br /> - ซน เล่นมาก เกิดอุบัติเหตุง่าย<br /> - ชอบแซงคิวบางทีก็ชอบขัดจังหวะหรือสอดแทรกขณะที่เพื่อนๆกำลังเล่นกันอยู่<br /> - ทำงานไม่เสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน<br /> - ใจร้อน วู่วามง่าย ทำอะไรแบบปุบปับและรุนแรง<br /> - ทำผิดกฎระเบียบบ่อย ๆ <br /> - หุนหันพลันแล่น จนถูกมองว่าเป็นเด็กดื้อ ก้าวร้าว<br /> - ชอบก่อความวุ่นวายและไม่เชื่อฟัง <br /><br />วิธีดูแลลูกซนสมาธิสั้น<br /> ถ้าใครไม่มีลูกซนสมาธิสั้นคงจะไม่เข้าใจว่า "ซนยิ่งกว่าลิง มันเป็นอย่างไร" บางครั้งเวลาผมตรวจคนไข้ดังกล่าวในเวลาแค่ชั่วโมงเดียวยังรู้สึกว่าอยากจะจับคนไข้มาล๊อคติดกับเก้าอี้ตรวจเลยทีเดียวเพราะห้องตรวจมันกระจัดกระจายและวุ่นวายไปหมด! นี่แค่เราเจอเจ้าตัวแสบแค่ไม่นานนะเนี่ยเรายังรู้สึกเหนื่อยเอาการ ถ้าเรา ต้องมีลูกแบบนี้ขอไม่มีซะดีกว่า ( ผู้เขียนยังโสดนะครับ ) ต้องขอยอมรับจริงๆว่าความผูกพันของพ่อแม่ลูกนั้นมันยิ่ง ใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมดจริงๆ ถึงแม้ลูกจะเป็นอย่างไรพ่อแม่ก็ยังเลี้ยงลูกได้เสมอ วันนี้ขอปรบมือให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกซนสมาธิสั้นทุกคนที่ท่านอดทนดูแลเจ้าจอมยุ่งได้โดยตลอด อย่างไรก็ตามผมขอให้ความรู้เล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่บ้างไม่มากก็น้อย <br /> โรคซนสมาธิสั้นนั้น เชื่อว่าเกิดจากความผิดปรกติของสมองส่วนหน้าที่ปรกติแล้วจะมีกลุ่มของ cell ประสาทที่ทั้งสั่งงานให้กล้ามเนื้อของร่างกายทำงานเช่นขณะนี้สมองส่วนหน้าของผมสั่งให้ผมพิมพ์แป้น computer เป็นต้น ขณะเดียวกันก็จะมี cell ประสาทของสมองส่วนหน้าอีกกลุ่มหนึ่ง(Inhibitory neurons)ทำหน้าที่กลั่นกรองยับยั้งไม่ให้ cell กลุ่มแรก ทำหน้าที่อยู่ตลอดเวลามากเกินไป เช่นขณะที่ผมพิมพ์แป้น computer อยุ่ถ้ามีเสียงรถวิ่งผ่าน ผมก็จะรับรู้ได้แต่จะไม่ ถึงกับเสียสมาธิลุกไปดูจนงานของผมเป็นอันไม่เสร็จกัน หรือถ้ามีใครเปิดTVผมก็จะรับรู้แต่ไม่ถึงกับต้องเสียสมาธิไปดูจนไม่ต้องทำงานต่อกัน อีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นชัดคือ สมมติว่ามีใครมาแกล้งหยอกโดยพูดล้อเล่นธรรมดา คนปรกติทั่วไปอย่างมากก็แค่โกรธและด่ากลับแต่จะไม่ถึงกลับชกเปรี้ยงเข้าให้โดยไม่พูดพล่ามทำเพลงซึ่งเกิดจากการควบคุมของ Inhibitory neurons นั่นเอง เด็กที่เป็นโรคซนสมาธิสั้นนั้น มีความผิดปรกติของสมองส่วน Inhibitory neurons นี้จึงทำให้ขาดความ ยับยั้งชั่งใจ ขาดสมาธิ ทำให้ถูกดึงความสนใจได้ง่าย ทำงานอะไรก็ไม่เสร็จ เรียนหนังสือไม่ได้ หรือมักจะซนมากๆ ไม่กลัวจะเกิดอุบัติเหตุเอาเสียเลย หรือมักจะทำร้ายเพื่อนบ่อยๆจนถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กเกเร มีการศึกษาที่น่าสนใจของต่างประเทศว่าเมื่อนำกลุ่มนักโทษ หรือกลุ่มเด็กอันธพาลข้างถนนที่ถูกจับมาศึกษาพบ ว่ามีประวัติในวัยเด็กว่าเป็นโรคซนสมาธิสั้นอยู่ เปอร์เซ็นต์สูงทีเดียว! ดังนั้นถ้าคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกซนสมาธิสั้นถ้าขาดความเข้าใจในตัวเด็กแล้วจะทำให้เด็กกลุ่ม นี้สร้างปํญหาในสังคมได้ในอนาคต<br /> วิธีการดูแลเด็กกลุ่มนี้อาศัยการรักษา 2 อย่างเป็นหลักคือ การให้ยารักษาและการปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ การใช้ยานั้นจะใช้ยาที่เรียกว่า Methylphenidate ( Ritalin ) ซึ่งจะต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์เท่านั้น ยานี้มีผลข้างเคียงคือ เด็กจะดูเซื่องซึมมากจนคุณพ่อคุณแม่บางคนตกใจและไม่ยอมใช้ยาต่อซึ่งจริงๆแล้วแม้เด็กจะซึมลงแต่ก็จะมีสมาธิมากขึ้นจะเป็นผลดีกับเด็กในด้านการเรียนและช่วยลดพฤติกรรมวุ่นวายของเด็กลง จึงขอแนะนำให้ใช้ยาต่อตามแพทย์สั่งนะครับ นอกจากนี้เด็กอาจมีอาการปวดท้องน้ำหนักลดได้ซึ่งก็ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด การรักษาที่มีความสำคัญอันยิ่งยวดไม่แพ้กันก็คือ การปรับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์( behavior modification ) ซึ่งมีคร่าวๆดังนี้คือ <br /> 1.จัดเวลาทำการบ้านให้กับเด็กโดยค่อยๆ เพิ่มจากน้อยมามากเช่น 20 นาที ถ้าทำได้ก็ ค่อยๆเพิ่มเวลาเป็น 30 นาที 45 นาที 1 ชั่วโมงเป็นต้น ขณะที่ทำการ บ้านก็งดสิ่งรบกวนทั้งหมดเช่นห้ามเปิด TV ห้ามพี่น้องคนอื่นมาเล่นของเล่นให้เห็น อาจให้เด็กเลือกว่าจะเล่นก่อนทำการบ้าน หรือทำการบ้านแล้วค่อยเล่นก็ได้ ถ้าเด็กทำได้ก็ให้คำชมเชยถ้าเด็กดื้อไม่ทำตามข้อตกลงก็ต้องมีการลงโทษซึ่งรายละเอียดให้ปรึกษาแพทย์ครับ <br /> 2. จัดกิจกรรมที่อาศัยการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นอันตรายต่อของในบ้านเช่นการให้เด็กถูห้อง การกวาดห้องเพื่อให้ได้เคลื่อนไหว ร่างกายบ้างและอย่าลืมชมเชย เมื่อทำสำเร็จเพื่อสร้างความภูมิใจกับเด็กครับ <br /> 3. เก็บของที่มีค่าทั้งหลายทีจะเสียหายได้ง่ายเช่นเครื่องแก้ว( ประจำตระกูล ) ให้มิดชิดเช่นใส่กุญแจล๊อคในตู้ไว้มิฉะนั้นถ้าเด็กซนจนเสียหายท่านจะมีอารมณ์กับเด็กเปล่าๆซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ความผิดของเด็กเลยเพราะเด็กขาดความยับยั้งชั่งใจนั่นเอง <br /> 4.จัดบ้านให้เรียบร้อยเพื่อลดอุบัติเหตุถ้าเด็กซน ( ทำ5ส เลยยิ่งดีครับ ) <br /> 5.ปรึกษาและคุยกับคุณครูเพื่อให้เข้าใจเด็กและนำจดหมายแนะนำจากแพทย์ให้กับคุณครูเพื่อเป็นแนวทางในการควบคุมพฤติกรรมเด็ก <br /> 6. หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีความวุ่นวายมากและต้องการสมาธิเช่นโรงหนังเพราะเด็กจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ปวดหัวเปล่าๆ <br /> 7. ข้อสุดท้ายคือต้องเข้าใจเด็กว่าเด็กไม่ได้แกล้งซนแต่เป็นเพราะขาดความยับยั้งชั่งใจจริงๆคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจและให้กำลังใจเด็กเสมอและควรส่งเสริมการออกกำลังกายโดยที่คุณพ่อคุณแม่ควรมีเวลาออกกำลังกายกับเด็กด้วยเพื่อสร้างความรักความผูกพันกันครับ <br /><br />โดยปภัสสโร <br /><br />ขอบคุณข้อมูลจาก <br /><br />http://sanookdee.th.gs/Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-83960848057752553952008-11-06T07:24:00.000+07:002008-11-06T07:27:39.608+07:00การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นการเสนอผลงานการดำเนินการเป็นเอกสาร จัดว่าเป็นขั้นตอนสำคัญอีกประการหนึ่งของโครงงาน เมื่อนักเรียนดำเนินการทำโครงงานจนครบขั้นตอนได้ข้อมูล ทำการวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมทั้งแปรผล และสรุปผลแล้ว งานขั้นต่อไปที่ต้องทำคือ การเขียนรายงาน <br /><br /><br /> การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นวิธีสื่อความหมายที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง เพื่อให้คนอื่น ๆ ได้เข้าใจแนวความคิด วิธีดำเนินงานศึกษาค้นคว้าข้อมูล ผลที่ได้ตลอดจนข้อสรุป และข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น <br /><br />การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้<br /><br />1. ชื่อโครงงาน <br />2. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน <br />3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน <br />4. บทคัดย่อ <br />5. กิตติกรรมประกาศ (คำขอบคุณ) <br />6. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน <br />7. วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน <br />8. สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า (ถ้ามี) <br />9. ขอบเขตของการทำโครงงาน <br />10.วิธีดำเนินการ <br />11.ผลการศึกษาค้นคว้า <br />12. สรุปผลและข้อเสนอแนะ <br />13. เอกสารอ้างอิง<br /><br />1. ชื่อโครงงาน <br />ชื่อโครงงานเป็นสิ่งสำคัญประการแรก เพราะชื่อโครงการจะช่วยโยงความคิดไปถึงวัตถุประสงค์ของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ และควรกำหนดชื่อโครงการให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักด้วย การตั้งชื่อโครงงานของนักเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา นิยมตั้งชื่อให้มีความกะทัดรัดและดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน ผู้ฟัง แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ผู้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ต้องเข้าใจปัญหาที่สนใจศึกษาอย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่การเข้าใจวัตถุประสงค์ของการศึกษาอย่างแท้จริงด้วย เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ ชื่อ “ถุงพลาสติกพิชิตแมลงวันตัวน้อย” ซึ่งปัญหาเรื่องที่สนใจศึกษาคือถุงน้ำพลาสติกสามารถไล่แมลงวันที่มาตอมอาหารได้จริงหรือ จากเรื่องดังกล่าวผู้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ บางคนหรือบางคณะอาจสนใจตั้งชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์ ว่า “การศึกษาการไล่แมลงวันด้วยถุงน้ำพลาสติก” หรือ “ผลการใช้ถุงน้ำพลาสติกต่อการไล่แมลงวัน” ก็เป็นได้อย่างไรก็ตามจะตั้งชื่อโครงการในแบบใด ๆ นั้น ต้องคำนึงถึงความสามารถที่จะสื่อความหมายถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องการศึกษาได้ชัดเจน <br /><br />2. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน <br />การเขียนชื่อผู้รับผิดชอบโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งดีเพื่อจะได้ทราบว่าโครงงานนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของใครและสามารถติดตามได้ที่ใด <br /><br />3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน <br />การเขียนชื่อผู้ให้คำปรึกษาควรให้เกียรติยกย่องและเผยแพร่ รวมทั้งขอบคุณที่ได้ให้คำแนะนำการทำโครงงานวิทยาศาสตร์จนบรรลุเป้าหมาย <br /><br />4. บทคัดย่อ <br />อธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ และผลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปต่าง ๆ อย่างย่อประมาณ 300-350 คำ <br /><br />5. กิตติกรรมประกาศ (คำขอบคุณ) <br />ส่วนใหญ่โครงงานวิทยาศาสตร์มักจะเป็นกิจกรรมที่ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ดังนั้นเพื่อเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศของความร่วมมือ จึงควรได้กล่าวขอบคุณบุคลากรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยให้โครงงานนี้สำเร็จด้วย <br /><br />6. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน <br />ในการเขียนที่มาและความสำคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์ ผู้ทำโครงงานจำเป็นต้องศึกษา หลักการทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจจะศึกษา หรือพูดเข้าใจง่าย ๆ ว่าเรื่องที่สนใจจะศึกษานั้นต้องมีทฤษฎีแนวคิดสนับสนุน เพราะความรู้เหล่านี้จะเป็นแนวทางสำคัญในเรื่องต่อไปนี้ <br />- แนวทางตั้งสมมติฐานของเรื่องที่ศึกษา <br />- แนวทางในการออกแบบการทดลองหรือการรวบรวมข้อมูล <br />- ใช้ประกอบการอภิปรายผลการศึกษา ตลอดจนเสนอแนะเพื่อนำความรู้และ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่ค้นพบไปใช้ประโยชน์ต่อไป <br />การเขียนที่มาและความสำคัญของโครงงาน คือ การอธิบายให้กระจ่างชัดว่าทำไม ต้องทำ ทำแล้วได้อะไร หากไม่ทำจะเกิดผลเสียอย่างไร ซึ่งมีหลักการเขียนคล้ายการเขียนเรียงความ ทั่ว ๆ ไป คือ มีคำนำ เนื้อเรื่อง และสรุป <br />ส่วนที่ 1 คำนำ :เป็นการบรรยายถึงนโยบาย เกณฑ์ สภาพทั่ว ๆ ไป หรือปัญหาที่มีส่วนสนับสนุนให้ริเริ่มทำโครงงานวิทยาศาสตร์ <br />ส่วนที่ 2 เนื้อเรื่อง :อธิบายถึงรายละเอียดเชื่อมโยงให้เห็นประโยชน์ของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยมี หลักการ ทฤษฎีสนับสนุนเรื่องที่ศึกษา หรือการบรรยายผลกระทบ ถ้าไม่ทำโครงงานเรื่องนี้ <br />ส่วนที่ 3 สรุป :สรุปถึงความจำเป็นที่ต้องดำเนินการตามส่วนที่ 2 เพื่อแก้ไขปัญหา ค้นข้อความรู้ใหม่ ค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ให้เป็นไปตามเหตุผลส่วนที่ 1 <br /><br />7. วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน <br />วัตถุประสงค์ คือ กำหนดจุดมุ่งหมายปลายทางที่ต้องการให้เกิดจากการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ในการเขียนวัตถุประสงค์ ต้องเขียนให้ชัดเจน อ่านเข้าใจง่ายสอดคล้องกับชื่อโครงงาน หากมีวัตถุประสงค์หลายประเด็น ให้ระบุเป็นข้อ ๆ การเขียนวัตถุประสงค์มีความสำคัญต่อแนวทาง การศึกษา ตลอดจนข้อความรู้ที่ค้นพบหรือสิ่งประดิษฐ์ที่ค้นพบนั้นจะมีความสมบูรณ์ครบถ้วน คือ ต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทุก ๆ ข้อ <br /><br />8. สมมติฐานของการศึกษา <br />สมมติฐานของการศึกษา เป็นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ผู้ทำโครงงาน ต้องให้ความสำคัญ เพราะจะทำให้เป็นการกำหนดแนวทางในการออกแบบการทดลองได้ชัดเจนและรอบคอบ ซึ่งสมมติฐานก็คือ การคาดคะเนคำตอบของปัญหาอย่างมีหลักและเหตุผล ตามหลักการ ทฤษฎี รวมทั้งผลการศึกษาของโครงงานที่ได้ทำมาแล้ว <br /><br />9. ขอบเขตของการทำโครงงาน <br />ผู้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ต้องให้ความสำคัญต่อการกำหนดขอบเขตการทำโครงงาน เพื่อให้ได้ผลการศึกษาที่น่าเชื่อถือ ซึ่งได้แก่ การกำหนดประชากร กลุ่มตัวอย่าง ตลอดจนตัวแปรที่ศึกษา <br />1. การกำหนดประชากร และกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ การกำหนดประชากรที่ศึกษาอาจเป็นคนหรือสัตว์หรือพืช ชื่อใด กลุ่มใด ประเภทใด อยู่ที่ไหน เมื่อเวลาใด รวมทั้งกำหนด กลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดเหมาะสมเป็นตัวแทนของประชากรที่สนใจศึกษา <br />2. ตัวแปรที่ศึกษา การศึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ ส่วนมากมักเป็นการศึกษาความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล หรือความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวแปรขึ้นไป การบอกชนิดของ ตัวแปรอย่างถูกต้องและชัดเจน รวมทั้งการควบคุมตัวแปรที่ไม่สนใจศึกษา เป็นทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ที่ผู้ทำโครงงานต้องเข้าใจ ตัวแปรใดที่ศึกษาเป็นตัวแปรต้น ตัวแปรใดที่ศึกษาเป็น ตัวแปรตาม และตัวแปรใดบ้างเป็นตัวแปรที่ต้องควบคุมเพื่อเป็นแนวทางการออกแบบการทดลอง ตลอดจนมีผลต่อการเขียนรายงานการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง สื่อความหมายให้ผู้ฟังและ ผู้อ่านให้เข้าใจตรงกัน <br /><br />10. วิธีดำเนินการ <br />วิธีดำเนินการ หมายถึง วิธีการที่ช่วยให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการทำ โครงงาน ตั้งแต่เริ่มเสนอโครงการกระทั่งสิ้นสุดโครงการ ซึ่งประกอบด้วย <br />1. การกำหนดประชากร กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา <br />2. การสร้างเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล <br />3. การเก็บรวบรวมข้อมูล <br />4. การวิเคราะห์ข้อมูล <br />ในการเขียนวิธีดำเนินการให้ระบุกิจกรรมที่ต้องทำให้ชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้าง เรียงลำดับกิจกรรมก่อนและหลังให้ชัดเจน เพื่อสามารถนำโครงการไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง <br /><br />11. ผลการศึกษาค้นคว้า <br />นำเสนอข้อมูลหรือผลการทดลองต่าง ๆ ที่สังเกตรวบรวมได้ รวมทั้งเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่วิเคราะห์ได้ด้วย <br /><br />12. สรุปผลและข้อเสนอแนะ <br />อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทำโครงงาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐาน ควรระบุด้วยว่าข้อมูล ที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมติฐานที่ตั้งไว้ หรือยังสรุปไม่ได้ อกจากนี้ยังควรกล่าวถึงการนำผล การทดลองไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทำโครงงานหรือข้อสังเกตที่สำคัญหรือข้อผิดพลาด บางประการที่เกิดขึ้นจากการทำโครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไข หากมีผู้ศึกษา ค้นคว้าในเรื่องที่ทำนองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย <br /><br />13. เอกสารอ้างอิง <br />เอกสารอ้างอิง คือ รายชื่อเอกสารที่นำมาอ้างอิงเพื่อประกอบการทำโครงงาน วิทยาศาสตร์ ตลอดจนการเขียนรายงานการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรเขียนตามหลักการ ที่นิยมกัน <br /><br />จาก <br /><br />http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&group=23 <br /><br /> <br /><br />ดูรูปเพิ่มเติมที่ <br /><br />http://handbillmania.flixya.comUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-23290647175116425152008-10-09T08:48:00.000+07:002008-10-09T09:59:18.531+07:00ภาวะโลกร้อน<strong>ภาวะโลกร้อนคืออะไร</strong><br /><br />ปรากฏการณ์โลกร้อน หรือ ภาวะโลกร้อน (global warming) คือปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกและผืนมหาสมุทรสูงขึ้น โดยมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ เป็นตัวการกักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ไม่ให้คายออกไปสู่บรรยากาศ<br /><br />ปรากฏการณ์โลกร้อนถือเป็นผลพวงจากการมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นในบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุให้รังสีความร้อนที่ผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามาถูกกักไว้ในโลกโดยไม่สามารถสะท้อนกลับออกไปได้ หรือที่เรียกว่าภาวะเรือนกระจก<br /><br />การเกิดขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากกระบวนการเผาไหม้ของการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล อาทิ น้ำมันปิโตรเลียม ถ่านหิน เป็นต้น ทั้งจากกิจกรรมการขนส่งและการผลิตกระแสไฟฟ้า<br /><br />แนวทางหนึ่งของการลดปริมาณการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คือ ลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น อาทิ พลังงานชีวมวล พลังงานน้ำ พลังลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิง พลังงานนิวเคลียร์ เป็นต้น<br /><br />อย่างไรก็ตามการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีมารองรับ ซึ่งปัจจุบันการใช้พลังงานหมุนเวียนบางประเภทยังมีต้นทุนที่แพงกว่าพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิง)<br /><br />มีกระแสต่อต้านจากมวลชนเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (เช่น พลังงานนิวเคลียร์ พลังงานน้ำจากการสร้างเขื่อน) และปัญหาความเพียงพอของวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิง (เช่น พลังงานชีวมวล ซึ่งใช้วัตถุดิบร่วมกับภาคเกษตร)<br /><br /><strong>สาเหตุของภาวะโลกร้อน<br /></strong>มหันตภัยร้ายที่กำลังคุกคามโลกอยู่ขณะนี้ คือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ปริมาณมหาศาลที่มนุษย์เป็นผู้ก่อ ถูกปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศโลกหนาขึ้นเท่าไร ก็จะเป็นตัวการกักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ไม่ให้คายออกไปสู่บรรยากาศ ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ การขนส่งและ การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม<br /><br />นอกจากนั้น มนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์และคลอโรฟลูโรคาร์บอน (CFC) เข้าไปอีกด้วยพร้อมๆกับการที่เราตัดและทำลายป่าไม้จำนวนมหาศาล ทำให้กลไกในการดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิภาพลง และได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของภาวะโลกร้อน ก็จะส่งผลให้อุณหภูมิของบรรยากาศโลก สูงขึ้นจนถึงระดับอันตรายผืนน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือและธารน้ำแข็งบนภูเขาทั้งหมดทั่วโลกค่อยๆ ละลายลงเรื่อยๆ และอาจจะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 20 ฟุต<br /><br /><strong>ผลกระทบ และผลลัพธ์ที่คาดว่าจะตามมา</strong><br /><strong>ต่อสภาพภูมิอากาศ</strong><br />สภาพอากาศแปรปรวนมากยิ่งขึ้น<br />ความชื้นในอากาศเพิ่มมากขึ้นเนื่องด้วยการระเหยของน้ำที่มากขึ้น<br />ความไม่มั่นคงของอุณหภูมิ<br /><br /><strong>ต่อทะเลและมหาสมุทร</strong><br />ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งตามทั่วโลกละลาย<br />น้ำทะเลสูงขึ้น<br />อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้น<br />การเปลี่ยนสภาวะของน้ำเป็นกรด<br />การหยุดไหลของกระแสน้ำอุ่น<br /><br /><strong>ต่อมนุษย์</strong><br />เกิดการขาดแคลนน้ำดื่ม<br />เกิดการอพยพย้ายที่อยู่อาศัยเนื่องจากโดนน้ำท่วม<br />เกิดโรคร้ายเพิ่มขึ้น<br /><br /><strong>ตัวอย่างผลกระทบที่เกิดขึ้น</strong><br />สภาพภูมิอากาศ<br /><br />ปี 2004 บราซิลซึ่งตั้งอยู่บริเวณส่วนใต้ของมหาสุมุทรแอตแลนติกถูกถล่มด้วยพายุเฮอร์ริเคนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันมาตลอดว่า "เป็นไปไม่ได้ที่เฮอร์ริเคนจะก่อตัวขึ้นในส่วนใต้ของมหาสุมุทรแอตแลนติก"<br /><br />ปี 2005 สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับพายุเฮอร์ริเคนถึง 27 ลูกซึ่งรวมถึงเฮอร์ริเคนแคทรีนาที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้เมืองนิวออร์ลีนส์ ในขณะที่ญี่ปุ่นถูกถล่มด้วยพายุไต้ฝุ่นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 10 ลูก จากเดิมที่มีสถิติสูงสุดเพียง 7 ลูกต่อปีเท่านั้น<br /><br />ปี 2006 ออสเตรเลียถูกพายุไซโคลนระดับ 5 ซึ่งมีกำลังมหาศาลเข้าถล่มหลายลูก โดยเฉพาะไซโคลนโมนิกาที่วัดได้ว่าเป็นไซโคลนที่มีกำลังแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยไซโคลนลูกนี้มีกำลังมากกว่าเฮอร์ริเคนแคทรีนาเสียอีก สภาพภูมิประเทศแหล่งน้ำทะเลสาบชาด อดีตทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของโลก แหล่งน้ำกินน้ำใช้ของประชาชนในประเทศชาด ไนจีเรีย แคเมอรูนและไนเจอร์ ภายในเวลาเพียง 40 ปี ทะเลสาบแห่งนี้ ต้องประสบกับการเหือดแห้งของน้ำในทะเลสาบอย่างรุนแรง จนกระทบต่อชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่รอบทะเลสาบอย่างรุนแรงUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-23581308703384107092008-10-09T08:41:00.000+07:002008-10-09T08:47:43.411+07:0010 ปรากฎการณ์ประหลาด ผลกระทบวิกฤต "โลกร้อน!"ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภัย "โลกร้อน" ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน อาทิ อากาศร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หรือระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังเป็นต้นเหตุของปรากฎการณ์แปลกๆ มากมาย ซึ่งเกี่ยวพันกับการหายสาบสูญของทะเลสาบ โรคภูมิแพ้โดยไม่ทราบสาเหตุ วิถีโคจรของดาวเทียมในอวกาศ ฯลฯ!<br /><br />สารภูมิแพ้แพร่ระบาด<br /><br />ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เกิดปรากฎการณ์ประหลาดขึ้นทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลินั่นคือ ประชาชนไอ จาม ป็นภูมิแพ้ และหอบหืดกันง่ายขึ้นและบ่อยขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุจากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับสภาพมลพิษในอากาศ เป็นสาเหตุสำคัญของอาการดังกล่าวอย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่า วิกฤตอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นและมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมากขึ้น คือต้นเหตุทำให้พืชพรรณต่างๆ ผลิใบเร็วกว่าเดิม ขณะเดียวกันปริมาณละอองเกสรที่ฟุ้งกระจายไปตามอากาศก็มากขึ้นเช่นกัน คนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดเมื่อสูดละอองเหล่านี้เข้าไปมากๆ อาการจึงกำเริบง่าย<br /><br />สัตว์อพยพไร้ที่อยู่<br /><br />ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน ทำให้สัตว์บางชนิด เช่น กระรอก ตัวชิปมังก์ หรือแม้กระทั่งหนู ต้องอพยพหนีขึ้นไปอยู่บนที่สูงขึ้นสัตว์ที่กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ ได้แก่ "หมีขั้วโลก" ที่ในอนาคตอาจมีชีวิตอยู่ในถิ่นฐานเดิมแถบอาร์กติก ขั้วโลกเหนือไม่ได้ เนื่องจากธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว<br /><br />"พืช"ขั้วโลกคืนชีพ<br /><br />ช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ผลจากภาวะน้ำแข็งขั้วโลกละลายเพราะโลกร้อน ส่งผลต่อการดำรงอยู่ของพืชและสัตว์จำนวนมาก ตามปกติ พืชแถบอาร์กติกจะถูกปกคลุมอยู่ในน้ำแข็งตลอดทั้งปี แต่ปัจจุบัน เมื่อน้ำแข็งละลายมากขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะในช่วงก่อนฤดูใบไม้ผลิต จึงทำให้พืชที่เคยถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกลายเป็นอิสระ สามารถเริ่มกระบวนการสังเคราะห์แสงและกลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นอีก 1 ปรากฎการณ์ใหม่ของพื้นที่ขั้วโลกเหนือ<br /><br />ทะเลสาบหายสาบสูญ<br /><br />เรื่องประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นในเขตอาร์กติก หรือ ขั้วโลกเหนือยังไม่หมดแค่นั้นมีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา "ทะเลสาบ" ประมาณ 125 แห่งได้หายสาบสูญไปจากเขตอาร์กติก เป็นสัญญาณหนึ่งที่ช่วยให้เห็นว่า ภัยโลกร้อนส่งผลกระทบเร็วมากต่อสภาพแวดล้อมแถบขั้วโลกสาเหตุที่ทะเลสาบหายไปก็เพราะ "เพอร์มาฟรอส" ที่เป็นน้ำแข็งแข็งตัวอยู่ใต้พื้นทะเลสาบนั้นละลายหมดสิ้นไป ดังนั้น น้ำในทะเลสาบจึงซึมเข้าสู่พื้นดินข้างใต้ได้ เหมือนกับเวลาเราดึงจุกปิดน้ำออกจากอ่างอาบน้ำแล้วน้ำจึงไหลหมดไปจากอ่างนั่นเองนอกจากนี้ การที่ทะเลสาบขั้วโลกหายวับไป ยังส่งผลลูกโซ่ปั่นป่วนไปถึงระบบนิเวศในพื้นที่ที่พึ่งพิงน้ำจากทะเลสาบอีกด้วย<br /><br />น้ำแข็งใต้พื้นโลกละลาย<br /><br />ภาวะโลกร้อนไม่ได้เพียงแค่ทำให้ธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างต่อเนื่องเท่านั้นแต่ยังส่งผลให้ชั้นน้ำแข็งถาวรที่มีอยู่ใต้พื้นผิวโลกค่อยๆ ละลายลดปริมาณลงไปเช่นกันผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นตามมาในอนาคตก็คือ จุดใต้พื้นโลก ซึ่งเคยเป็นน้ำแข็งหายไปจนเกิดเป็น "รูรั่ว" ใต้ดินขึ้นมาเมื่อเป็นเช่นนี้สภาพทางภูมิศาสตร์ในพื้นที่ย่อมเปลี่ยนไป สิ่งปลูกสร้าง หรือ สิ่งก่อสร้างของมนุษย์ เช่น ทางรถไฟ ถนน บ้านเรือน ฯลฯ ซึ่งตั้งอยู่เหนือจุดดังกล่าวมีโอกาสได้รับความเสียหายตามไปด้วย ถ้าปรากฎการณ์น้ำแข็งละลายเกิดขึ้นบนที่สูง เช่น ภูเขา จะก่อให้เกิดภัยธรรมชาติตามมา อาทิ หินถล่มและโคลนถล่ม เป็นต้น<br /><br />ชนวนเกิดไฟป่า<br /><br />นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยืนยันตรงกันทั่วโลก ว่า ภัยโลกร้อนเป็นสาเหตุให้ธารน้ำแข็งละลายและพายุก่อตัวบ่อยและรุนแรงขึ้นกว่าในอดีตยิ่งไปกว่านั้น ภาวะโลกร้อนยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิด "ไฟป่า" ได้ง่ายขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก และชาติเมืองหนาวในซีกโลกตะวันตก ซึ่งตามปกติไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องไฟป่า ก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนี้กันแล้ว เหตุเพราะสภาพป่าแห้งกว่าเดิม จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี<br /><br />ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงอยู่รอด<br /><br />โลกร้อนส่งผลให้หน้าหนาวหดสั้นลง และหน้าร้อนมาถึงเร็วขึ้นบรรดา "นกอพยพ" หลายสายพันธุ์ต่างมึนงง ปรับ "นาฬิกาชีวภาพ" ในตัวของมันให้เข้ากับสภาพความผันแปรของฤดูกาลที่บิดเบี้ยวไปไม่ทันสัตว์ที่จะเอาชีวิตรอดจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวนในทุกวันนี้ได้ต้องเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้น ในที่สุดสัตว์ที่อยู่รอดจะต้อง "กลายพันธุ์" หรือปรับพันธุกรรมในตัวมันเสียใหม่ เพื่อรับมือภัยโลกร้อนให้ได้ และมีสัตว์หลายชนิดกำลังวิวัฒนาการตัวเองเช่นนั้นอยู่<br /><br />ดาวเทียมโคจรเร็วกว่าเดิม<br /><br />การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าถ่านหิน ยวดยานพาหนะ ฯลฯ คือ ตัวการสำคัญของวิกฤตโลกร้อนล่าสุดพบว่า เจ้าก๊าซตัวเดียวกันนี้เองที่ขึ้นไปสะสมมากขึ้นในชั้นบรรยากาศโลก ได้กลายเป็นต้นเหตุทำให้ "ดาวเทียม" ที่อยู่ในวงโคจรโลกเคลื่อนที่เร็วกว่าเดิมตามปกติ อากาศในบรรยากาศชั้นนอกสุดของโลกจะเบาบาง แต่โมเลกุลของอากาศจะยังคงมีแรงดึงดูดมากพอในการทำให้ดาวเทียมโคจรช้าๆ ดังนั้น เราอาจเคยได้ยินข่าวกันมาบ้างว่า ผู้ควบคุมต้องจึดระเบิดดาวเทียมเป็นระยะๆ เพื่อให้ดาวเทียมโคจรต่อไปอย่างถูกต้องอย่างไรก็ตาม เมื่อคาร์บอนไดออกไซด์ลอยไปสะสมในบรรยากาศชั้นล่างมากไป จะทำแรงดึงดูดของบรรยากาศชั้นนอกสุดลดกำลังลง ดาวเทียมจึงโคจรเร็วกว่าปกติ<br /><br />ภูเขากระเด้งตัวเหนือพื้นโลก<br /><br />ภูเขาและเทือกเขาสูงหลายแห่งทั่วโลกกำลังขยายตัว "สูง" ขึ้น เพราะผลจากโลกร้อน!นั่นเป็นเพราะ ตามธรรมชาติที่ผ่านๆ มานับพันปี ยอดภูเขาในเขตหนาวเย็นโดยทั่วไปจะมี "น้ำแข็ง" ปกคลุมอยู่ ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับตุ้มน้ำหนักที่คอยกดทับให้ฐานล่างของภูเขาทรุดต่ำลงไปใต้พื้นผิวเมื่อน้ำแข็งบนยอดเขามลายสูญสิ้นไป ส่วนฐานล่างที่เคยถูกกดจมดินลงไปจะค่อยๆ กระเด้งคืนตัวกลับมาเหนือผิวโลกอีกครั้ง<br /><br />โบราณสถานเสียหาย<br /><br />โบราณสถาน เมืองเก่าแก่ ซากปรักหักพังทางประวัติศาสตร์ ฯลฯ อันเป็นสิ่งแสดงถึงวัฒนธรรมอันรุ่งเรื่องของมนุษย์ในอดีตได้รับผลกระทบจากโลกร้อน เหตุเพราะโลกร้อนทำให้อากาศทั่วโลกแปรปรวน ทั้งเกิดพายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง และล้วนแต่ยิ่งสร้างความเสียหายให้กับมรดกตกทอดทางประวัติศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมอยู่แล้วโบราณสถานอายุ 600 ปีในจังหวัดสุโขทัยของประเทศไทยเรา ก็เคยเสียหายอย่างหนักเพราะภัยน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งเป็นผลจากภัยโลกร้อน มาแล้วเช่นUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-50121216506664169722008-10-08T15:34:00.000+07:002008-10-08T15:44:53.397+07:00สวยๆ งามๆ ตามธรรมชาติ...ดอกไม้และแมลง<p><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738204&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738204.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738207&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738207.jpg" border="0" /></a><br /></p><p>รูปแบบของภาวะปรสิตนะครับเด็กๆ โดยที่ต้นหญ้าได้ผลประโยชน์จากการใช้รากเข้าชอนไขไปในต้นไม้ทำให้ต้นไม้เสียประโยชน์<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738208&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738208.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738209&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738209.jpg" border="0" /></a><br />ภาพบรรยากาศของแม่น้ำน่านที่จังหวัดน่านเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม อ.ท่าวังผาไปแล้ว<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738211&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738211.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738212&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738212.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738302&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738302.jpg" border="0" /></a><br />ดอกไม้และใบไม้<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738305&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738305.jpg" border="0" /></a><br />ไข่ของหอยเชอรี่ ในทุ่งนาที่เป็นศัตรูพืชนะครับ<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738307&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738307.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738308&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738308.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738310&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738310.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738313&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738313.jpg" border="0" /></a><br />ชอบดอกไหน ภาพไหนก็ดูกันตามสบายครับ คลายเครียด<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738395&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738395.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738398&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738398.jpg" border="0" /></a><br />ลูกอะไรไม่รู้คล้ายมะระกินได้ด้วยครับ กับดอกคุณนายตื่นสาย<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738400&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738400.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738401&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738401.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738402&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738402.jpg" border="0" /></a><br />ดาวเรืองหลายสี หลายพันธุ์<br /></p><br /><p><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738403&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738403.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738474&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738474.jpg" border="0" /></a><br /></p><p>กล้วยไม้และโป๊ยเซียน<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738475&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738475.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738477&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738477.jpg" border="0" /></a><br />ดอกอะไรเอ่ย แต่ที่ให้ชมเพราะเม็ดของมันจะมีนุ่นไว้คอยให้มันปลิวลอยไปไกลเพื่อขยายพันธุ์ต่อ<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738478&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738478.jpg" border="0" /></a><br />แมลงเต่าทองหรือเปล่าหว่า<br /></p><br /><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738479&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738479.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738482&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738482.jpg" border="0" /></a><br />ดอกของผักที่กินได้ ทายสิดอกผักอะไร<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738540&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738540.jpg" border="0" /></a><br />ผมถ่ายภาพนี้ยากลำบาก เพราะเข้าใกล้ทีไร บินหนีทุกที ได้มาก็ดีใจแล้ว<br /></p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738542&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738542.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738543&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738543.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11738544&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011738544.jpg" border="0" /></a><br />แมลงัวนหัวเขียว เห็ดและหนอนครับ ชอบป่ะ<br /></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-70936980974494093232008-10-08T11:28:00.000+07:002008-10-08T11:31:53.240+07:00พาสเจอไรส์ (pasteurization)พาสเจอไรส์ (pasteurization) เป็นการฆ่าเชื้อโดยใช้ความร้อน การฆ่าเชื้อวิธีนี้สามารถทำลายเอนไซม์ต่าง ๆ รวมทั้งจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ทั้งนี้อุณหภูมิที่ใช้ในการฆ่าเชื้อต้องไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส โดยผู้ผลิตสามารถเลือกใช้อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 63 องศาเซลเซียส และคงอยู่ที่อุณหภูมินี้ไม่น้อยกว่า 30 นาที (Low Temperature Long Time) แล้วทำให้เย็นลงทันทีที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่า หรือใช้อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 72 องศาเซลเซียส และคงอยู่ที่อุณหภูมินี้ไม่น้อยกว่า 15 วินาที (High Temperature Short Time) แล้วทำให้เย็นลงทันทีที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่า ควรเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการพาสเจอไรส์ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิตู้เย็น เพราะการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำสามารถยับยั้งการงอกของสปอร์ จึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค<br />หัวข้อ<br /><a href="http://guru.sanook.com/pedia/topic/พาสเจอไรส์_(pasteurization)/#ประวัติความเป็นมา">ประวัติความเป็นมา</a><br /><a href="http://guru.sanook.com/pedia/topic/พาสเจอไรส์_(pasteurization)/#วิธีการพาสเจอร์ไรส์">วิธีการพาสเจอร์ไรส์</a><br /><a href="http://guru.sanook.com/pedia/topic/พาสเจอไรส์_(pasteurization)/#ประโยชน์และข้อควรปฏิบัติ">ประโยชน์และข้อควรปฏิบัติ</a><br /><a name="ประวัติความเป็นมา"></a>ประวัติความเป็นมา พาสเจอร์ไรส์เป็นการตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติแก่นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) ซึ่งเป็นคนแรกที่คิดค้นการฆ่าจุลชีพที่แปลกปลอมอยู่ในเหล้าไวน์ระหว่างปี พ.ศ. 2407-2408 โดยการใช้ความร้อนประมาณ 50 - 60 องศาเซลเซียส ซึ่งการค้นพบนี้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากในการผลิตเครื่องดื่มที่ต้องฆ่าจุลชีพ แต่ใช้อุณหภูมิสูงมากไม่ได้ เพราะจะทำให้รสและกลิ่นเปลี่ยนแปลงและในปี พ.ศ.2434 นักวิทยาศาสตร์ชื่อ ซอกเลต (Soxhlet) จึงได้นำวิธีการนี้มาใช้กับนมสด [<a href="http://guru.sanook.com/pedia/topic/พาสเจอไรส์_(pasteurization)/#พาสเจอไรส์">กลับหัวข้อหลัก</a>][ <a href="javascript:startDesktop3(" sub_id="2981&title=%25BE%25D2%25CA%25E0%25A8%25CD%25E4%25C3%25CA%25EC%2B%2528pasteurization%2529%2B%25A8%25D2%25A1%2B%25BA%25B7%25A4%25C7%25D2%25C1%2B%25CA%25B9%25D8%25A1%2521%2B%25BE%25D5%25E0%25B4%25D5%25C2','แก้ไข')"">แก้ไข</a> ]<br /><a name="วิธีการพาสเจอร์ไรส์"></a>วิธีการพาสเจอร์ไรส์<br />วิธีการพาสเจอร์ไรส์มี 2 วิธีคือ<br /> 1. วิธีใช้ความร้อนต่ำ - เวลานาน (LTLT : Low Temperature - Long Time) วิธีนี้ใช้ความร้อนที่อุณหภูมิ 62.8 - 65.6 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที เมื่อผ่านความร้อนโดยใช้เวลาตามที่กำหนดแล้ว ต้องเก็บอาหารไว้ในที่เย็นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า 7.2 องศาเซลเซียส กรรมวิธีการนี้นอกจากจะทำลายแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคแล้วยังยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ย่อยไขมันชนิดไลเปส (Lipase) ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดกลิ่นหืนในน้ำนมด้วย<br /> 2. วิธีใช้ความร้อนสูง - เวลาสั้น (HTST : High Temperature - Short Time) วิธีนี้ใช้ความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่าวิธีแรก แต่ใช้เวลาน้อยกว่าคืออุณหภูมิ 71.1 องศาเซลเซียสคงไว้เป็นเวลา 15 วินาที อาหารที่ผ่านความร้อนแล้วจะได้รับการบรรจุลง กล่องหรือขวดโดยวิธีปราศจากเชื้อแล้วนำไปแช่เย็นที่อุณหภูมิ 7.2 องศาเซลเซียส[<a href="http://guru.sanook.com/pedia/topic/พาสเจอไรส์_(pasteurization)/#พาสเจอไรส์">กลับหัวข้อหลัก</a>][ <a href="javascript:startDesktop3(" sub_id="2982&title=%25BE%25D2%25CA%25E0%25A8%25CD%25E4%25C3%25CA%25EC%2B%2528pasteurization%2529%2B%25A8%25D2%25A1%2B%25BA%25B7%25A4%25C7%25D2%25C1%2B%25CA%25B9%25D8%25A1%2521%2B%25BE%25D5%25E0%25B4%25D5%25C2','แก้ไข')"">แก้ไข</a> ]<br /><a name="ประโยชน์และข้อควรปฏิบัติ"></a>ประโยชน์และข้อควรปฏิบัติ<br />ประโยชน์<br /> การพาสเจอร์ไรส์เป็นการถนอมอาหารแบบชั่วคราว เพราะสามารถป้องกันมิให้จุลชีพเจริญในชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่สารอาหารยังอยู่ครบถ้วนหรือเกือบครบถ้วน ดังนั้นจึงมีประโยชน์ต่ออาหารที่ต้องรับประทานเป็นประจำแต่ไม่เก็บไว้นาน ๆ เช่น นม น้ำผลไม้ ไอศกรีม ก่อนนำไปปั่นแข็ง เป็นต้น<br />ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้บริโภคเกี่ยวกับอาหารที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์แล้วโดย เฉพาะนมดังนี้คือ<br /> 1. นมพาสเจอร์ไรส์ต้องเก็บไว้ในตู้เย็นเสมอ บุคคลทั่วไป เข้าใจว่านมสดเมื่อได้รับการฆ่าเชื้อแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น แต่ความเป็นจริงแล้วความร้อนที่ใช้เพียงแต่ฆ่าเชื้อที่เป็นสาหตุของโรคเท่านั้น แต่จุลชีพที่ไม่เป็นสาเหตุของโรคยังคงมีอยู่ในน้ำนมและจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วหากไม่เก็บนมไว้ในตู้เย็นนมอาจจะเสียภายใน 1 - 7 วันเท่านั้น ดังนั้นพึงระลึกเสมอว่านมพาสเจอร์ไรส์นั้นต้องเก็บไว้ในตู้เย็นที่มี อุณหภูมิประมาณ 5 องศาเซลเซียส<br /> 2. ให้สังเกตลักษณะของนมก่อนดื่ม เพราะนมพาสเจอร์ไรส์จะมีกำหนดอายุ ผู้ผลิตที่ดีต้องพิมพ์วันหมดอายุของนมสดไว้บนถุงที่บรรจุทุกครั้งที่ผลิต โดยทั่วไป นมสดจะมีอายุประมาณ 7 วัน โดยที่นมสดต้องเก็บในสภาพเย็นตลอดแต่ถ้านมสดถูกทิ้งไว้ในอุณหภูมิธรรมดานอกตู้เย็นนาน ๆ โดยเฉพาะหน้าร้อน นมสดอาจจะเสียได้ภายใน 3 วันเท่านั้น ดังนั้นก่อนดื่มนมพาสเจอร์ไรส์ทุกครั้งควรรินใส่แก้ว สังเกตดูว่าถ้ามีตะกอนเป็นเม็ดขาว ๆ เกิดขึ้น แสดงว่านมนั้นเสียแต่ถ้าไม่มีเม็ดขาว ๆ ควรตรวจสอบด้วยการชิมถ้ามีรสเปรี้ยวเกิดขั้นไม่ควรดื่มนมนั้น<br /> 3. ไม่ควรเก็บนมสดไว้นานเกินไป ถึงแม้จะเก็บนมพาสเจอร์ไรส์ไว้ในตู้เย็นก็อาจเสียได้ หลายคนประหลาดใจที่พบว่าบ่อยครั้งโดยเฉพาะหน้าร้อน นมสดที่เก็บไว้ในตู้เย็นก็ยังเสียได้ ทั้งนี้เพราะหลังจากการบรรจุถุงพลาสติกแล้วกว่านมจะถูกนำมาส่งที่บ้านอาจจะมีอุณหภูมิสูงนานเกินไป จุลชีพจึงเจริญเติบโตจนทำให้นมเกือบจะเสีย แม้เก็บไว้ในตู้เย็นอีก 2 วัน จุลชีพก็ยังสามารถเจริญเติบโตพอที่จะทำให้นมเสียได้ ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรดื่มให้หมดภายใน 1 วันUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-15453684863377648732008-10-03T12:33:00.000+07:002008-10-03T12:36:29.293+07:00โซเดียมคาร์บอเนตจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<br /><br />โซเดียมคาร์บอเนต หรือ โซดา แอช สูตรเคมี คือ <a title="โซเดียม" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1">Na</a>2<a class="new" title="คาร์บอร์เนต (ยังไม่ได้สร้าง)" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%95&action=edit&redlink=1">CO3</a> เป็นสารประกอบเกลือของ<a title="กรดคาร์บอนิก" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81">กรดคาร์บอนิก</a> มีลักษณะเป็นผงสีขาว ไม่มีกลิ่น สามารถดูดความชื้นจากอากาศได้ดี ละลายได้ในน้ำ มีฤทธิ์เป็นด่างแก่เมื่อละลายน้ำ ละลายได้เล็กน้อยในแอลกอฮอล์ พบในขี้เถ้าของ<a title="พืช" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B8%8A">พืช</a>หลายชนิดและ<a class="new" title="สาหร่ายทะเล (ยังไม่ได้สร้าง)" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5&action=edit&redlink=1">สาหร่ายทะเล</a> (จึงได้ชื่อว่า โซดา แอช เนื่องจาก แอช ในภาษาอังกฤษ หมายถึง ขี้เถ้า) เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น <a title="แก้ว" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7">แก้ว</a> <a class="new" title="เซรามิคส์ (ยังไม่ได้สร้าง)" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B9%8C&action=edit&redlink=1">เซรามิคส์</a> <a title="กระดาษ" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A9">กระดาษ</a> <a title="ผงซักฟอก" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9C%E0%B8%87%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%81">ผงซักฟอก</a> <a title="สบู่" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B9%88">สบู่</a> <a title="ผงฟูทำขนมปัง" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9C%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%87">ผงฟูทำขนมปัง</a> การแก้ไขน้ำกระด้าง<br /><br />โซเดียมคาร์บอเนต พบได้ในธรรมชาติในเขตแห้งแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งแร่ที่เกิดจากทะเลสาบที่ระเหยแห้งไป ในสมัยอียิปต์โบราณ มีการขุดแร่ที่เรียกว่า เนทรอน (natron) (ซึ่งเป็นเกลือที่ประกอบด้วยโซเดียมคาร์บอเนต (หรือ โซดา แอช) และ<a title="โซเดียมไบคาร์บอเนต" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%95">โซเดียมไบคาร์บอเนต</a> (เบกกิ้ง โซดา) และมี<a title="โซเดียมคลอไรด์" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%8C">โซเดียมคลอไรด์</a> (เกลือแกง) และ<a class="new" title="โซเดียมซัลเฟต (ยังไม่ได้สร้าง)" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%95&action=edit&redlink=1">โซเดียมซัลเฟต</a> ปนอยู่เล็กน้อย) จากก้น<a title="ทะเลสาบ" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%9A">ทะเลสาบ</a>ที่แห้ง ใกล้<a title="แม่น้ำไนล์" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%8C">แม่น้ำไนล์</a> และนำมาใช้ในการทำ<a title="มัมมี่" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88">มัมมี่</a> ใน ปี <a title="พ.ศ. 2481" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2481">พ.ศ. 2481</a> (ค.ศ. 1938) พบแหล่งแร่โซเดียมคาร์บอเนตขนาดใหญ่ใกล้แม่น้ำกรีนริเวอร์ <a title="มลรัฐไวโอมิง" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%87">มลรัฐไวโอมิง</a> <a title="สหรัฐอเมริกา" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2">สหรัฐอเมริกา</a> ทำให้สหรัฐขุดแร่มาใช้แทนการผลิตทางกรรมวิธีทางเคมี<br /><br />ในประเทศอื่น ๆ การผลิตโซเดียมคาร์บอเนตทำโดยกรรมวิธีทางเคมีที่เรียกว่า กระบวนการโซลเวย์ (Solvay process) ซึ่งค้นพบโดย เออร์เนส โซลเวย์ นักอุตสาหกรรมเคมีชาวเบลเยี่ยม ในปี <a title="พ.ศ. 2404" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2404">พ.ศ. 2404</a> (ค.ศ. 1861) โดยเปลี่ยน โซเดียมคลอไรด์ (น้ำเกลือ) เป็น โซเดียมคาร์บอเนต โดยใช้ <a title="แอมโมเนีย" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2">แอมโมเนีย</a> และ <a title="แคลเซียมคาร์บอเนต" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%95">แคลเซียมคาร์บอเนต</a> (หินปูน) และสารที่เหลือจากกระบวนการมีเพียง แคลเซียมคลอไรด์ ซึ่งไม่เป็นพิษแม้ว่าอาจก่อให้เกิดความระคายเคืองได้ และ แอมโมเนียนั้นยังสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ทำให้กระบวนการโซลเวย์มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่ากรรมวิธีแบบเดิมมาก จึงถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตโซเดียมคาร์บอเนตอย่างแพร่หลาย ในคริสต์ศตวรรษ 1900 โซเดียมคาร์บอเนต 90% ที่ผลิต ใช้วิธีการนี้ และยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน<br /><br />เดิมนั้นการผลิตโซเดียมคาร์บอเนตทำโดยกระบวนเคมีที่เรียกว่า กระบวนการเลอบลังก์ (Leblanc process) ซึ่งค้นพบโดยนักเคมีชาวฝรั่งเศส ชื่อ <a class="new" title="นิโคลาส เลอบลังก์ (ยังไม่ได้สร้าง)" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AA_%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C&action=edit&redlink=1">นิโคลาส เลอบลังก์</a> ในปี <a title="พ.ศ. 2334" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2334">พ.ศ. 2334</a> (ค.ศ. 1791) โดยใช้ โซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง) กรดซัลฟูริก (กรดกำมะถัน) แคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) และถ่าน แต่กรดไฮโดรคลอริค (<a class="mw-redirect" title="กรดเกลือ" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD">กรดเกลือ</a>) ที่เกิดจากกระบวนการนี้ ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ และแคลเซียมซัลไฟด์ ที่เหลือจากกระบวนการทำให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม แต่เนื่องจากโซเดียมคาร์บอเนตเป็นสารเคมีพื้นฐานในอุตสาหกรรมหลายชนิด ทำให้มีการผลิตโซเดียมคาร์บอเนตโดยกรรมวิธีนี้ และเป็นกรรมวิธีหลักมาจนถึงช่วงปี <a title="พ.ศ. 2423" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2423">พ.ศ. 2423</a> - <a title="พ.ศ. 2433" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2433">2433</a> (ช่วง ค.ศ. 1880 - 1890) หลังการค้นพบกระบวนการโซลเวย์ กว่า 20 ปี โรงงานผลิตแคลเซียมคาร์บอเนตที่ใช้กระบวนการ เลอบรังค์แห่งสุดท้ายปิดลงในช่วงปี <a title="พ.ศ. 2463" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2463">พ.ศ. 2463</a> (ค.ศ. 1920)<br /><a name=".E0.B8.82.E0.B9.89.E0.B8.AD.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A7.E0.B8.B1.E0.B8.87"></a><br /><strong>ข้อระวัง</strong><br />- การกลืนหรือกิน อาจทำให้เกิดความระคายคอ<br />- การหายใจ สูดดม ก่อให้เกิดอันตราย ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับเป็นเวลานาน<br />- การสัมผัสทางผิวหนัง ก่อให้เกิดความระคายเคือง อาจเกิดอาการแสบไหม้<br />- หากเข้าตา จะเกิดอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง เป็นอันตรายได้Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-66715148488031906902008-10-03T12:21:00.001+07:002008-10-03T12:27:10.832+07:00เบส (เคมี)จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<br /><br /><strong>เบส</strong> ตามคำจำกัดความของ อาร์รีเนียส (Svante Arrhenius) คือ สารประกอบเคมี ที่ดูด ไฮโดรเนียม ไอออน เมื่อละลายในน้ำ (ผู้รับโปรตอน) หมู่ธาตุอัลคะไล เป็นตัวอย่างพิเศษสำหรับเบส ในที่ที่สิ่งแวดล้อมเป็นน้ำ ไฮดรอกไซด์ไอออน จะถูกให้ เบสและ กรด ถูกมองว่าอยูตรงข้ามกันเพราะว่าผลของกรดคือการเพิ่มความเข้มข้น ของ ไฮโดรเนียม ไอออน (H3O+) ในน้ำ, ในขณะที่เบสลดความเข้มข้น เบส อาร์รีเนียสเมื่อละลายน้ำสารละลายของมันจะมี pH มากกว่า 7 เสมอ กรดเมื่อผสมกับเบสจะสะเทินทำให้ได้น้ำกับเกลือ<br /><br /><strong>เบสธรรมดา</strong><br />คาร์บอเนต (Carbonates) - ผงทำขนมปัง (Baking soda-sodium hydrogen carbonate) และ โซเดียมคาร์บอเนต (Sodium carbonate)<br />แอมโมเนีย (Ammonia) และ อะไมน์(amine)<br />ไพริดีน (Pyridine) และ เบสิกอะโรมาติกริง (basic aromatic ring)<br />โลหะไฮดรอกไซด์ เช่น โซเดียม ไฮดรอกไซด์ หรือ โพรแทสเซียม ไอดรอกไซด์<br />โลหะออกไซด์ ทำปฏิกิริยากับน้ำเกิดเป็น เบสิกไฮดรอกไซด์ (แอนไฮไดรด์)<br /><br /><strong>เบส และ pH</strong><br />pH ของน้ำไม่บริสุทธิ์จะวัดกันที่ ความเป็นกรด ของมัน ในน้ำบริสุทธิ์ ประมาณ 1 ใน 10 ล้านโมเลกุล จะแตกตัวไปเป็น ไฮโดรเนียมไอออน (H3O+) และ ไฮดรอกไซด์ไอออน (OH)<br /><br /><strong>ลักษณะเฉพาะของเบส<br /></strong>เบสมีความหนืดมากกว่าน้ำเล็กน้อย มีรสขม คล้ายสบู่เมื่อสัมผัส ทำปฏิกิริยากับกรดได้เกลือ<br /><br /><strong>การทำกรดให้เป็นกลาง</strong><br />เมื่อละลายในน้ำ เบส โซเดียมไฮดรอกไซด์จะแตกตัวเป็น ไฮดรอกไซด์ และ โซเดียมไอออน<br /><br />และคล้ายกัน ในน้ำ ไฮโดรเจนคลอไรด์ จะแตกตัวเป็น ไฮโดรเนียม และ คลอไรด์ไอออน<br /><br />เมื่อนำสารละลายทั้งสองมาผสมกัน H3O+ และ OH− ไอออน จะรวมกันเกิดเป็นโมเลกุลของน้ำ<br /><br />ถ้าจำนวนของ NaOH และ HCl ละลายเท่ากัน (วัดเป็นโมลไม่ใช่กรัม) ด่างและกรดจะทำปฏิกิริยากันพอดีแล้วเกิดเป็น NaCl (เกลือแกง) ละลายอยู่ในสารละลายนั้น<br /><br /><strong>ความป็นด่างของ นอน-ไฮดรอกไซด์</strong><br />ทั้ง โซเดียมคาร์บอเนต และ แอมโมเนีย เป็นเบส แม้ว่าสารประกอบทั้งสองจะไม่มี หมู่ OH− ก็ตาม อันนี้เป็นเพราะว่าสารประกอบทั้งสองรับ H+ เมื่อละลายน้ำ<br /><br /><strong>เบสที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาแบบเฮเตอโรเจนัส (Bases as heterogeneous catalysts)<br /></strong>สารประกอบด่างสามารถใช้เป็น ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ ไม่ละลายน้ำแบบเฮเตอโรเจนัส ในปฏิกิริยาเคมี ได้ ตัวอย่างคือ โลหะออกไซด์ เช่น<br />แมกนีเซียมออกไซด์ (magnesium oxide)<br />แคลเซียมออกไซด์ (calcium oxide)<br />บาเรียมออกไซด์ (barium oxide)<br />โพแทสเซียมฟลูออไรด์ (potassium fluoride) บน อะลูมินา (alumina)<br />ซีโอไลต์ (zeolite)<br />โลหะทรานซิชัน ใช้ทำตัวเร่งปฏิกิริยาได้ดี หลายตัวทำให้เกิดสารประกอบเบส ตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นด่างใช้ในการเร่งปฏิกิริยา ไฮโดรจีเนชัน โดยการเคลื่อนย้าย พันธะคู่, เมียร์วีอิน-พอนน์ดอร์ฟ-เวอร์เลย์ รีดักชัน (Meerwein-Ponndorf-Verlay reduction), ปฏิกิริยาไมเคิล (Michael reaction), และปฏิกิริยาอื่นๆ อีกมากมายUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-65995001627921926572008-10-03T12:15:00.001+07:002008-10-03T12:21:33.105+07:00กรด : ความหมายและตัวอย่างจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<br /><br /><strong>กรด (Acid)</strong><br />เป็นสารชนิดหนึ่งในทางเคมี โดยทั่วไปแล้วหมายถึงสารชนิดใดก็ได้ที่สามารถละลายน้ำได้ และเกิดสารละลายที่มีค่า pH น้อยกว่า 7<br /><br />ในทางวิทยาศาสตร์ กรดหมายถึงโมเลกุลหรือไอออนที่สามารถให้โปรตอนแก่เบสได้ กรดเมื่อผสมกับเบสจะสะเทินทำให้ได้น้ำกับเกลือ<br /><br />ตัวอย่างของกรดที่พบบ่อยได้แก่ กรดมะนาว กรดน้ำส้มสายชู กรดกำมะถัน<br />การทดสอบกรดสามารถทำได้โดยใช้กระดาษลิตมัส ถ้าเป็นสีส้ม-สีแดงแสดงว่าสารละลายนั้นเป็นกรด<br /><br /><strong>ประเภทของกรด</strong><br />กรดแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ<br />๑. <strong>กรดอนินทรีย์</strong><strong> (Inorganic Acids)</strong><br />๒. <strong>กรดอินทรีย์</strong><strong> (Organic Acids)<br /></strong>หรืออาจแบ่งตามความสามารถในการแตกตัวให้โปรตอน มี 2 ชนิดคือ กรดแก่และกรดอ่อน<br />กรดแก่ เช่น HCl (กรดไฮโดรคลอริก), HNO3 (กรดไนตริก), H2SO4 (กรดซัลฟิวริก) เป็นต้น<br />กรดอ่อน เช่น CH3COOH (กรดน้ำส้ม), H2CO3 (กรดคาร์บอนิก), H2S (กรดไฮโดรซัลฟิวริก)<br /><br /><strong>ทฤษฎีกรด-เบส<br /></strong>คำว่า ‘กรด’ ในภาษาอังกฤษ (acid) มาจากภาษาละตินว่า แอซิดัส (acidus) ซึ่งแปลว่าเปรี้ยว แต่ในวิชาเคมีมีความหมายแตกต่างออกไป โดยมีทฤษฎีกรด-เบส เป็นตัวขยายความ<br /><br />- ทฤษฎีกรด-เบส อาร์เรเนียส (สวันเต อาร์เรเนียส) ระบุว่า กรด เมื่อละลายในน้ำแล้วจะเพิ่มความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออน ส่วนเบสเมื่อละลายน้ำจะเพิ่มความเข้มข้นของไฮดรอกไซด์ไอออน<br />หมายเหตุ : นิยามดังกล่าวจำกัดอยู่เฉพาะกรดและเบสที่ละลายได้ในน้ำเท่านั้น<br /><br />- ทฤษฎีกรด-เบส เบรินสเตต-ลาวรี (โยฮันเนส เบรินสเตต และทอมัส ลาวรี) ระบุว่า กรด เป็นตัวให้โปรตอน และเบส เป็นตัวรับโปรตอน ซึ่งกรดและเบสที่สอดคล้องกันจะอยู่ในรูปคู่กรด-เบส<br />หมายเหตุ : นิยามนี้สามารถใช้อธิบายความเป็นกรด-เบสของสาร โดยไม่จำเป็นต้องละลายน้ำก็ได้<br /><br />- ทฤษฎีกรด-เบส ลิวอิส (กิลเบิร์ต ลิวอิส) ระบุว่า กรดเป็นตัวรับคู่อิเล็กตรอน และเบสเป็นตัวให้คู่อิเล็กตรอน (บางทีอาจเรียกกรดและเบสในทฤษฎีนี้ว่า กรดลิวอิส และเบสลิวอิส)<br />หมายเหตุ : ทฤษฎีนี้สามารถใช้อธิบายสารที่แตกตัวแล้วไม่ได้โปรตอน เช่น ไอร์ออน (III) คลอไรด์<br /><br />ตัวอย่างกรดอื่นๆ สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้โดยการใช้กล่องค้นหานะครับUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-49307125643724853092008-10-02T12:50:00.000+07:002008-10-02T12:54:26.950+07:00แก๊สโซฮอล์จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<br /><br />น้ำมันแก๊สโซฮอล์ (Gasohol) หรือที่นิยมเรียกว่า E10 คือน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ ที่เกิดจากการผสมระหว่าง น้ำมันเบนซิน 90% กับ แอลกอฮอล์ 10% (ได้แก่ เอทานอล) ในภาษาอังกฤษไม่เรียกน้ำมันเชื้อเพลิงว่า เบนซิน แต่จะเรียกว่า แก๊สโซลีน (Gasoline) ดังนั้น จึงเป็นที่มาของคำศัพท์ว่า แก๊สโซฮอล์ นั่นคือ Gaso + hol ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกทดแทนน้ำมันเบนซิน น้ำมันผสมชนิดนี้ มีใช้กันในหลายประเทศทั่วโลก ข้อดีของแก๊สโซฮอล์คือ การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ขึ้น เนื่องจากโครงสร้างทางเคมีของแอลกอฮอล์ ทำให้ลดมลพิษในอากาศ และในขณะเดียวกันราคาของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ มีราคาต่ำกว่า น้ำมันเบนซินโดยทั่วไป<br /><br />สำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้นมีองค์ประกอบต่างกับน้ำมันเบนซิน คือน้ำมันเบนซินมี เอมทีบีอี (MTBE) เป็นตัวเพิ่มออคเทน ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ใช้เอทานอล เป็นตัวเพิ่มออคเทน เอทานอลให้พลังงานน้อยกว่าเอมทีบีอี (MTBE) โดยต่างกันอยู่ร้อยละ 1.6-1.8 การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้นออกซิเจนที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในเอทานอล จะช่วยให้การเผาไหม้ภายในห้องเครื่องสมบูรณ์ขึ้นอีก และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่จะปล่อยออกมาจากท่อไอเสีย<br /><br /><strong>แก๊สโซฮอล์ในประเทศไทย</strong><br />แก๊สโซฮอล์ในประเทศไทยเกิดขึ้นจากพระราชดำริของในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2528 ที่ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน โดยได้ทรงศึกษาการนำอ้อยมาแปรรูปเป็นแอลกอฮอล์ และนำแอลกอฮอล์มาผลิตเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์<br /><br />น้ำมันแก๊สโซฮอล์ถือเป็นพลังงานทางเลือกที่เริ่มได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศต่างๆ แทบทุกทวีปทั่วโลก เช่น อเมริกา แคนาดา บราซิล เคนยา ปารากวัย สเปน สวีเดน ออสเตรเลีย จีน ฯลฯ เนื่องจากเป็นพลังงานที่มีผลดีหลายอย่าง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ อาทิ อ้อย กากน้ำตาล และมันสำปะหลัง ซึ่งล้วนแต่สามารถจัดหาและปลูกขึ้นได้ใหม่ในเวลาอันสั้น<br /><br />ปัจจุบัน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ที่มีจำหน่าย คือ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ซึ่งมีส่วนผสมของเอทานอลไม่เกินร้อยละ 10 สามารถใช้แทนหรือสลับกับน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 ได้ตามปกติ ไม่ต้องไปดัดแปลงเครื่องยนต์แต่อย่างใด<br /><br /><br /><strong>แหล่งข้อมูลอื่น</strong><br />รายละเอียดแก๊สโซฮอล์ จากเว็บไซต์ ปตท.<br />น้ำมันแก๊สโซฮอล์ จากเวบบล็อก Mr Gasohol<br />เอทานอลทดแทนเบนซินได้จริงหรือ จาก วิชาการ.คอม โดย นิภาภรณ์ สีถาการ อยู่ในส่วนพลังงานชีวภาพ<br />http://weblog.manager.co.th/publichome/gasoholic/Default.aspx<br />http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mrgasohol&month=10-2007&date=08&group=2&gblog=8Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-34390476729346845232008-10-01T16:40:00.000+07:002008-10-01T16:45:30.564+07:00เหล็กกล้าไร้สนิมจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<br /><br />เหล็กกล้าไร้สนิม หรือ สเตนเลส นั้น ในทาง<a class="new" title="โลหกรรม (ยังไม่ได้สร้าง)" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1&action=edit&redlink=1">โลหกรรม</a>ถือว่าเป็น<a class="new" title="โลหะผสมเหล็ก (ยังไม่ได้สร้าง)" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%AB%E0%B8%B0%E0%B8%9C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81&action=edit&redlink=1">โลหะผสมเหล็ก</a> ที่มี<a title="โครเมียม" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1">โครเมียม</a>อย่างน้อยที่สุด 10.5% ชื่อใน<a title="ภาษาไทย" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2">ภาษาไทย</a> แปลจาก<a title="ภาษาอังกฤษ" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9">ภาษาอังกฤษ</a>ว่า stainless steel เนื่องจาก<a title="โลหะ" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%AB%E0%B8%B0">โลหะ</a>ผสมดังกล่าวไม่เป็น<a title="สนิม" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A1">สนิม</a>อันเนื่องมาจากการทำปฏิกิริยากันระหว่าง ออกซิเจนในอากาศกับโครเมียมในเนื้อสเตนเลส เกิดเป็นฟิล์มบางๆเคลือบผิวไว้ ทำหน้าที่ปกป้องการเกิดความเสียหายให้กับตัวเนื้อสเตนเลสได้เป็นอย่างดี ปกป้องการเกิด Corrosion และไม่ชำรุดหรือสึกกร่อนง่ายอย่างโลหะทั่วไป สำหรับใน<a title="สหรัฐอเมริกา" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2">สหรัฐอเมริกา</a>และในหลายประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการบิน นิยมเรียกโลหะนี้ว่า corrosion resistant steel เมื่อไม่ได้ระบุชัดว่าเป็นโลหะผสมชนิดใด และคุณภาพระดับใด แต่ในท้องตลาดเราสามารถพบเห็น สเตนเลสเกรด 18-8 มากที่สุด ซึ่งเป็นการระบุถึง ธาตุที่เจือลงในในเนื้อเหล็กคือ โครเมียมและนิเกิล ตามลำดับ สแตนเลสประเภทนี้จัดเป็น Commercial Grade คือมีใช้ทั่วไปหาซื้อได้ง่าย มักใช้ทำเครื่องใช้ทั่วไป ซึ่งเราสามารถจำแนกประเภทของสเตนเลสได้จากเลขรหัสที่กำหนดขึ้นตามมาตรฐาน AISI เช่น 304 304L 316 316L เป็นต้น ซึ่งส่วนผสมจะเป็นตัวกำหนดเกรดของสเตนเลส ซึ่งมีความต้องการในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สเตนเลสกับการเกิดสนิม ปกติ Stainless steel จะไม่เป็นสนิมเพราะที่ผิวของมันจะมีฟิล์มโครเมียมออกไซด์ บางๆเครือบผิวอยู่อันเนื่องมาจากการทำปฏิกิริยากันระหว่าง Cr ใน Stainless steel กับ ออกซิเจนในอากาศ การทำให้ Stainless steel เป็นสนิมคือการถูกทำลายฟิล์มโครเมียมออกไซด์ ที่เคลือบผิวออกไปในสภาวะที่ Stainless steel สามารถเกิดสนิมได้ ก่อนที่ฟิล์มโครเมียมออกไซด์จะก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งเช่น ถ้าสเตนเลสถูกทำให้เกิดรอยขีดข่วน แล้วบริเวณรอยนั้นมีความชื้น ซึ่งสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยากับธาตุเหล็กก่อนที่ฟิล์มโครเมียมออกไซด์จะก่อตัวขึ้นมา ก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดสนิมขึ้นได้<br /><br /><strong>ประเภทของสเตนเลส</strong><br />คนโดยทั่วไปจะไม่ทราบว่าสเตนเลสมีกี่ประเภท และมักจะมีการเข้าใจผิดว่าสเตนเลสแท้ต้องแม่เหล็กดูดไม่ติด แต่จริงๆแล้วการที่แม่เหล็กจะดูดติดหรือไม่ติดนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของสเตนเลส สเตนเลสแบ่งออกเป็นกลุ่มพื้นฐาน ได้ 5 กลุ่มคือ ออสเทนนิติค, เฟอริติค, ดูเพล็กซ์, มาร์เทนซิติค และ กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยวิธีการตกผลึก<br /><br /><em>กลุ่มออสเทนนิติค (Austenitic)</em> หรือสเตนเลสตระกูล 300 เป็นเกรดที่ใช้งานแพร่หลายมากที่สุดถึง 70%<br />มีคุณสมบัติที่แม่เหล็กดูดไม่ติด (non – magnetic) มีส่วนผสมของโครเมียม 16% คาร์บอนอย่างมากที่สุด 0.15% มีส่วนผสมของธาตุนิกเกิล 8% เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติในการทำการประกอบ(Fabrication)และเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน เกรดที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและนิยมเรียก 18/10 คือการที่มีส่วนผสมของโครเมียม 18% และนิกเกิล 10%<br /><br /><em>กลุ่มเฟอริติค (Ferritic)</em> แม่เหล็กดูดติด(magnetic) มีธาตุคาร์บอนผสมปริมาณที่ต่ำ และมีโครเมียมเป็นธาตุผสมหลักที่สำคัญอาจอยู่ระหว่าง 10.5%-27% และมีนิกเกิ้ลเป็นส่วนผสมอยู่น้อยมากหรือไม่มีเลย<br /><br /><em>กลุ่มมาร์เทนซิติค (Martensitic)</em> แม่เหล็กดูดไม่ติด(magnetic) มีส่วนผสมของโครเมียม 12-14% และมีธาตุคาร์บอนผสมอยู่ปานกลาง มีโมลิบดีนัมเป็นส่วนผสมอยู่ประมาณ 0.2-1% ไม่มีนิกเกิล<br />สเตนเลสตระกูลนี้สามารถปรับความแข็งได้โดยการให้ความร้อนแล้วทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว (Quenching)และอบคืนตัว (Tempering) สามารถลดความแข็งได้ คล้ายกับเหล็กกล้าคาร์บอน และพบการใช้งานที่สำคัญในการผลิตเครื่องตัด, อุตสาหกรรมเครื่องบินและงานวิศวกรรมทั่วไป<br /><br /><em>กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก</em> (Precipitation hardening)เกรดที่เป็นที่รู้จักในตระกูลนี้ คือ 17-4H ซึ่งมีส่วนผสมของโครเมียม 17% และนิกเกิล 4% สามารถเพิ่มความแข็งแรงได้โดยกลไกเพิ่มความแข็งจากการตกผลึก (Precipitation hardening mechanism) โดยสามารถเพิ่มความแข็งแรงสูงมาก มีค่าความเค้นพิสูจน์ (Proof stress) อยู่ระหว่าง 1,000 ถึง 1,500 เมกาปาสคาล (MPa) ขึ้นอยู่กับชนิดและกรรมวิธีปรับปรุง<br />คุณสมบัติด้วยความร้อน (Heat treatment)<br /><br /><em>กลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex)</em> มีโครงสร้างผสมระหว่าง โครงสร้างเฟอริติค และออสเทนนิติค มีโครเมียมเป็นธาตุผสมอยู่ระหว่าง 19-28% และโมลิบดินัมสูงกว่า 5% และมีนิกเกิลน้อยกว่าตระกูลออสเทนนิติค พบว่ามีการใช้งานมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรยากาศแวดล้อมของคลอไรด์<br /><br /><strong>ประโยชน์ของการใช้งานสเตนเลส</strong><br />ใช้ในสิ่งแวดล้อมที่กัดกร่อน (Corrosive Environment)<br />งานอุณหภูมิเย็นจัด ป้องกันการแตกเปราะ<br />ใช้งานอุณหภูมิสูง (High temperature)ป้องกันการเกิดคราบออกไซด์ (scale) และยังคงความแข็งแรง<br />มีความแข็งแรงสูงเมื่อเทียบกับมวล (High strength vs. mass)<br />งานที่ต้องการสุขอนามัย(Hygienic condition) ต้องการความสะอาดสูง<br />งานด้านสถาปัตยกรรม (Aesthetic appearance) ไม่เป็นสนิม ไม่ต้องทาสี<br />ไม่ปนเปื้อน (No contamiation) ป้องกันการทำ ปฏิกิริยากับสารเร่งปฏิกิริยา<br />ต้านทานการขัดถูแบบเปียก (Wet abrasion resistance)<br /><a name=".E0.B8.81.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B9.80.E0.B8.A5.E0.B8.B7.E0.B8.AD.E0.B8.81.E0.B9.83.E0.B8.8A.E0.B9.89.E0.B8.AB.E0.B8.A3.E0.B8.B7.E0.B8.AD.E0.B8.8B.E0.B8.B7.E0.B9.89.E0.B8.AD.E0.B8.AA.E0.B9.80.E0.B8.95.E0.B8.99.E0.B9.80.E0.B8.A5.E0.B8.AA"></a><br /><strong>การเลือกใช้หรือซื้อสเตนเลส<br /></strong>การเลือกใช้หรือซื้อสเตนลส ผู้ซื้อหรือผู้ใช้ควรมีความรู้พื้นฐานสักเล็กน้อยในเรื่องดังต่อไปนี้<br />ความรู้เกี่ยวกับวัสดุ - ความรู้จะช่วยการตัดสินใจไม่เกิดปัญหาผิดพลาดและประหยัดราคา<br />ความรู้เรื่องเกรดของวัสดุ- เลือกใช้เกรดวัสดุ ถูกต้อง ลดความเสี่ยง ช่วยลดหรือประหยัดจากการใช้วัสดุราคาแพงได้<br />ความรู้ในการออกแบบ- การออกแบบที่ดีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการประกอบ<br />ความรู้ในการตกแต่งผิว- การตกแต่งผิวทำให้ดู สวยงามและมีราคาเพิ่มขึ้น<br />การประยุกต์ใช้ในงานตกแต่งหรืองานเครื่องใช้ภายในบ้าน- ใช้เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหรือแก้ไข<br />การใช้การวางแผนการผลิต - การวางแผนการผลิตจะช่วย ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์<br /><a name=".E0.B8.9C.E0.B8.B4.E0.B8.A7.E0.B8.82.E0.B8.AD.E0.B8.87.E0.B8.AA.E0.B9.80.E0.B8.95.E0.B8.99.E0.B9.80.E0.B8.A5.E0.B8.AA"></a><br /><strong>ผิวของสเตนเลส<br /></strong>No.1- รีดร้อนหรือรีดเย็น / อบอ่อน หรือปรับปรุงด้วยความร้อน คราบออกไซด์ไม่ได้ขจัดออก / ใช้งานในสภาพที่รีดออกมาโดยทั่วไปจะใช้งานที่ทนความร้อน<br />2D- สภาพผิว 2D หลังจากการรีดเย็นโดยลดความหนาลง ผ่านการอบอ่อนและการกัดผิวโดยกรดลักษณะผิวสีเทาเงินเรียบ<br />2B- ผิว 2D ที่ผ่านลูกรีดขนาดใหญ่กดทับปรับความเรียบ เพิ่มความเงาผิวเงาสะท้อนปานกลาง ผลิตโดยวิธีการรีดเย็น ตามด้วยการอบนำอ่อนขจัดคราบออกไซด์ และนำไปรีดเบาๆ ผ่านไปยังลูกกลิ้งขัด ซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปของการรีดเย็น ผิวที่ได้ส่วนมากจะอยู่ในระดับ 2B<br />BA-ผ่านกระบวนการรีดเย็นโดยความหนาลดลงทีละน้อยๆ ผ่านการอบอ่อนด้วยก๊าซไฮโดรเจน เพื่อป้องกันกันการออกซิเดชั่นกับออกซิเจนในอากาศ ผิวมันเงา สะท้อนความเงาได้ดี ผิวผลิตภัณฑ์สเตนเลสจะกระทำด้วยวิธีนี้ ซึ่งจะมีเครื่องหมาย BA หรือ No.2BA, A ซึ่งผิวอบอ่อนเงา จะมีลักษณะเงากระจก ซึ่งเริ่มต้นจากการรีดเย็น อบอ่อนในเตาควบคุมบรรยากาศ ผิวเงาที่เห็นจะเป็นการขัดผิวด้วยลูกกลิ้งขัดผิว หรือเจียรนัยผิวตามเกรดที่ต้องการ ผิวอบอ่อนเงาส่วนมากจะใช้กับงานสถาปัตยกรรม ที่ต้องการผิวสะท้อน ผิวอบอ่อนสีน้ำนมจะไม่สะท้อนแสงเหมือนกับ No.8 จะใช้กับงานที่เป็นขอบ ชิ้นส่วนทางสถาปัตยกรรม ภาชนะในครัว อุปกรณ์ในกระบวนการผลิตอาหาร<br />No.4, Hair Line- สภาพผิว 2B ที่ผ่านการจัดถูด้วยกระดาษทรายเบอร์ 120-220 โดยค่าความหยาบขึ้นอยู่กับแรงกด, ขนาดของอนุภาคเม็ดทราย และระยะเวลาการใช้งานของกระดาษทราย ผิว No.4 เป็นสภาพผิวที่สนองต่อการนำไปใช้งานทั่วไป เช่นร้านอาหาร อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว อุปกรณ์รีดนม<br />No.8- สภาพผิว 2B, BA ขัดด้วยผ้าขัดอย่างละเอียดมากขั้นตามลำดับ เช่น #1000, ผ้าขนสัตว์ โดยมีผงขัดอะลูมิเนียมและโครเมียมออกไซด์ ผิว No.8 ส่วนมากจะเป็นผิวเงาสะท้อนคล้ายกระจกเงา ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นสเตนเลสชนิดแผ่นโดยผิวจะถูกขัดด้วยเครื่องขัดละเอียด นำไปใช้กับงานตกแต่งทางด้านสถาปัตยกรรม และงานที่เน้นความสวยงาม<br /><a name=".E0.B8.81.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B8.81.E0.B8.B1.E0.B8.94.E0.B8.81.E0.B8.A3.E0.B9.88.E0.B8.AD.E0.B8.99"></a><br /><strong>การกัดกร่อน</strong><br />สเตนเลสเป็นวัสดุที่ทนและต้านทานการกัดกร่อน อย่างไรก็ตามมีสเตนเลสหลายตระกูลที่สามารถต้านทานการกัดกร่อนได้ดีเลิศ ในประเด็นการใช้งานที่ต่างกัน ซึ่งต้องเลือกไปใช้ในงานผลิตหรืองานประกอบโครงสร้าง ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างระมัดระวัง<br />การกัดกร่อนทั่วไป (General corrosion)<br />เป็นการกัดกร่อนที่เกิดขึ้นตลอดทั่วผิวหน้า (Uniform attack) การกัดกร่อนแบบนี้มีอันตรายน้อยเพราะว่าสามารถวัด และทำนายการกัดกร่อนที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ การกัดกร่อนแบบนี้จะเกิดขึ้นกับสเตนเลสในสิ่งที่แวดล้อมที่มีผลต่อการกัดกร่อนในอัตราที่ต่ำมาก<br />การกัดกร่อนเนื่องจากความต่างศักย์ไฟฟ้า (Galvanic corrosion)<br />เป็นการกัดกร่อนที่เกิดจากโลหะ 2 ชนิดที่มีศักย์ทางไฟฟ้าแตกต่างกันมาอยู่ติดกัน จุ่มอยู่ในสารละลายที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเดียวกัน สเตนเลสจะเป็นโลหะที่มีศักย์สูงกว่า ดังนั้นอัตราการกัดกร่อนแบบกัลวานิคมักจะไม่ค่อยเพิ่มขึ้นในสเตนเลส<br />การกัดกร่อนแบบสึกกร่อนเนื่องจากการไหลของสารละลายที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง (Erosion corrosion)/การกัดกร่อนเนื่องจากการขัดถู (Abrasion corrosion)<br />การกัดกร่อนแบบ Erosion/abrasion เป็นปฏิกิริยาที่เกิดร่วมกันระหว่างการสึกหรอทางกลกับการกัดกร่อนจากสารละลาย , ผงหรือเศษที่หลุดมาจากการขัดถู จะแขวนลอยอยู่ในสารละลาย และไหลด้วยความเร็วสูงจะทำให้ผิวหน้าสัมผัสมีอัตราการกัดกร่อนสูง สเตนเลสจะมีความต้านทานการกัดกร่อนแบบสึกกร่อนฯ หรือแบบขัดถูสูงเนื่องจากมีฟิล์มถาวรที่ยึดแน่น และสร้างทดแทนขึ้นที่ผิวหน้าสม่ำเสมอ<br />การกัดกร่อนตามขอบเกรน (Intergranular corrosion)<br />การกัดกร่อนตามขอบเกรนเกิดขึ้นเนื่องจากเกิดการตกผลึกของโครเมียมคาร์ไบด์บริเวณขอบเกรน ที่อุณหภูมิสูงประมาณ 450 - 850C. ทำให้ขอบเกรนมีปริมาณโครเมียมลดลง มีความต้านทานการกัดกร่อนตามแนวขอบเกรนต่ำ แก้ไขโดยการเลือกใช้วัสดุเกรด “L” หรือ เกรดที่ช่วยให้โครงสร้างสถียร (Stabilized grade) และต้องระวังไม่ให้เกิดการกัดกร่อนตามขอบเกรนระหว่างการเชื่อมประกอบโครงสร้าง<br />การกัดกร่อนแบบสนิมขุม (Pitting corrosion)<br />การกัดแบบเป็นจุดหรือแบบสนิมขุมเป็นการกัดกร่อนเฉพาะที่เป็นอันตรายมาก ซึ่งมีผลทำให้เกิดการกัดกร่อนที่ผิวหน้าเป็นรูเล็กๆ หรือเป็นรูทะลุตลอดเนื้อวัสดุ แต่สามารถวัดการสูญเสียเนื้อวัสดุได้น้อย สิ่งแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนแบบสนิมขุม ส่วนมากจะเป็นสารละลายที่มีอิออนคลอไรด์ (Chloride ion) จะเป็นตำแหน่งที่ฟิล์มถาวรจะถูกทำลายได้ง่ายที่สุดในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ ควรจะเลือกใช้วัสดุด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสารละลายของกรดที่มีอุณหภูมิสูง ถ้าเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการกัดกร่อนแบบสนิมขุมไม่สามารถแก้ไขได้ ให้แก้โดยการเลือกใช้โลหะผสมที่ต้านทานการกัดกร่อนสูงกว่า เช่น สเตนเลสเกรดดูเพล็กซ์ และเกรดอื่นๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้<br />การกัดกร่อนในพื้นที่อับหรือถูกปกปิด (Crevice corrosion)<br />การกัดแบบนี้เกิดขึ้นที่ผิวหน้าส่วนที่ถูกปิด หรือกดทับของสเตนเลส มีผลทำให้ปิดกั้นออกซิเจนไม่สามารถเข้าไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นสร้างฟิล์มออกไซด์ได้ ทำให้ฟิล์มป้องกันมีแนวโน้มที่จะแตกหรือถูกทำลายลงในพื้นที่อับนี้ ดังนั้นในสภาวะการใช้งานต้องหลีกเลี่ยงการมีพื้นที่อับ<br />การกัดกร่อนในสภาพแวดล้อมที่มีจุลชีพ (Microbiologically Induced Corrosion : MIC)<br />การกัดกร่อนที่เป็นผลมาจากจุลชีพ เกิดจากแบคทีเรียที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมเกาะติดที่ผิวหน้าของสเตนเลสทำให้บริเวณนั้น ปิดกั้นออกซิเจน ดังนั้นเงื่อนไขในการกัดกร่อนจึงคล้ายกับแบบ Crevice แบคทีเรียจึงทำให้สถานการณ์ การกัดกร่อนเลวร้ายลง<br />การแตกร้าวเนื่องจากการกัดกร่อนภายใต้แรงเค้น (Stress Corrosion Cracking : SCC)<br />SCC คือการแตกเปราะที่เริ่มต้นจากการกัดกร่อนในวัสดุที่มีความเหนียว สเตนเลสเกรดออสเทนนิติกจะมีแนวโน้มที่จะเกิด SCC สูงกว่าเกรดเฟอร์ริติก, สเตนเลสเกรดเฟอร์ริติกจึงสามารถต้านทานการกัดกร่อนแบบ SCC ได้สูงกว่าเกรดออสเทนนิติก<br /><a name=".E0.B9.80.E0.B8.81.E0.B8.A3.E0.B9.87.E0.B8.94.E0.B8.84.E0.B8.A7.E0.B8.B2.E0.B8.A1.E0.B8.A3.E0.B8.B9.E0.B9.89.E0.B9.83.E0.B8.99.E0.B8.81.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B9.83.E0.B8.8A.E0.B9.89.E0.B8.AA.E0.B9.80.E0.B8.95.E0.B8.99.E0.B9.80.E0.B8.A5.E0.B8.AA"></a><br /><strong>เกร็ดความรู้ในการใช้สเตนเลส</strong><br />ค่าการนำความร้อน (Thermal conductivity)<br />สเตนเลสทุกชนิดจะมีค่าการนำความร้อนต่ำกว่าเหล็กกล้าคาร์บอนมาก สเตนเลสเกรดที่มีส่วนผสมโครเมียมอย่างเดียว (plain chromium steel) มีค่าการนำความร้อน +_1/3 และเกรดออสเทนนิติกมีค่าการนำความร้อน +_1/4 ของเหล็กกล้าคาร์บอน ทำให้มีผลต่อการใช้งานที่อุณหภูมิสูง เช่นมีผลต่อการควบคุมปริมาณความร้อนเข้าระหว่างการเชื่อม, ต้องให้ความร้อนเป็นระยะเวลานานขึ้น เมื่อต้องทำงานขึ้นรูปร้อน<br />สัมประสิทธิ์การขยายตัว(Expansion coefficient)<br />สเตนเลสเกรดที่มีส่วนผสมโครเมียมอย่างเดียวมีสัมประสิทธิ์การขยายตัวคล้ายกับเหล็กกล้าคาร์บอน แต่เกรดออสเทนนิติกจะมีสัมประสิทธ์การขยายตัวสูงกว่าเหล็กกล้าคาร์บอน 1½ เท่า การที่สเตนเลสมีการขยายตัวสูงแต่มีค่าการนำความร้อนต่ำทำให้ต้องหามาตรการป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียหายที่ตามมาเช่น ใช้ปริมาณความร้อนในการเชื่อมต่ำ, กระจายความร้อนออกโดยใช้แท่งทองแดงรองหลัง, การจับยึดป้องกันการบิดงอ ปัจจัยเหล่านี้ต้องพิจารณาการใช้งานร่วมกันของวัสดุ เช่นท่อแลกเปลี่ยนความร้อน (heat exchanger) ระหว่างเปลือกโครงสร้างเหล็กกล้าคาร์บอน และท่อออสเทนนิติคเป็นต้น<br />ฟิล์มป้องกันและการสร้างฟิล์ม (Passive film)<br />สเตนเลสจะมีฟิล์มบางๆ ต้านทานการกัดกร่อน จำเป็นต้องรักษาความสมบูรณ์ของฟิล์มป้องกัน ดังนี้<br />หลีกเลี่ยงความเสียหายหรือการสัมผัสรุนแรงทางกล<br />ซ่อมปรับปรุงพื้นที่ที่มีผลต่อการเสียหายเช่น บริเวณที่เกิดสะเก็ดหรือคราบออกไซด์เนื่องจากอุณหภูมิสูงใกล้ๆ แนวเชื่อม, บริเวณที่เกิดความเสียหายทางกลหรือมีการเจียระไน, มีการปนเปื้อนโดยวิธีการสร้างฟิล์มป้องกัน (passivation) อย่างเดียวหรือใช้ทั้งวิธีการแช่กรดเพื่อกำจัดคราบจากออกไซด์ (pickling) หรือ การแช่กรดหรือทาน้ำยาสร้างฟิล์มออกไซด์ (passivation) ที่ผิวเหล็กกล้าสเตนเลส<br />แน่ใจว่ามีออกซิเจนเพียงพอและสม่ำเสมอที่สร้างออกไซด์ที่ผิวของ เหล็กกล้าสเตนเลสได้<br />การเสียหายที่ผิวเนื่องจากการเสียดสีที่ผิวโลหะกับโลหะอย่างรุนแรง (Galling /pick up / seizing)<br />ผิวหน้าสเตนเลสมีแนวโน้มที่จะเกิดการเสียหายเนื่องจากการเสียดสีอย่างรุนแรง ต้องหลีกเลี่ยงและระมัดระมัดระวัง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวโดยสำหรับผิวหน้าที่มีการเสียดสีกันตลอดเวลา ควรใช้ Load หรือแรงเสียดสีต่ำสุด และต้องแน่ใจว่าการเสียดสีไม่สร้างความร้อนเกิดขึ้น ควรรักษาผิวสัมผัสไม่ให้มีการบดกับผงฝุ่น เม็ด ทรายฯลฯ และใช้น้ำมันหล่อลื่นหรือเคลือบผิวUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-59389938731042030822008-09-29T01:23:00.000+07:002008-09-29T02:13:41.175+07:00แวดวงของโรงเรียนเทศบาลท่าอิฐต่อภายนอกพอดีไปค้นเจอภาพการไปดูงานของคณะครูโรงเรียนเรา ก็เลยนำมาบอกกล่าวให้รู้กันครับ<br />คลิกไปที่<br /><br /><a href="http://swis-acs.acs.ac.th/html_edu/cgi-bin/acs/report/print_picture.php?id_pic=40">http://swis-acs.acs.ac.th/html_edu/cgi-bin/acs/report/print_picture.php?id_pic=40</a><br /><br />และนอกจากนี้ยังมีผลงานอีกหลายอย่าง ได้แก่<br /><br />๑. ขยะไม่เกลื่อนกลาดโรงเรียนสะอาด<br /><a href="http://schoolnet.nectec.or.th/library/create-web/10000/sociology/10000-7710.html">http://schoolnet.nectec.or.th/library/create-web/10000/sociology/10000-7710.html</a><br /><br />๒. คนอื่นพูดถึงโรงเรียนเรา<br /><a href="http://www.whenifallinlove.net/diary/diary.php?funky-pink:2:6:2007">http://www.whenifallinlove.net/diary/diary.php?funky-pink:2:6:2007</a><br /><br />๓. บล๊อกครูเพ็ญนิดา บุญมาสืบ<br /><a href="http://gotoknow.org/blog/pennida">http://gotoknow.org/blog/pennida</a><br /><br />๔. บล๊อกครูแขก ห้องวิชาการ<br /><a href="http://learners.in.th/blog/sawitrem">http://learners.in.th/blog/sawitrem</a><br /><br />๕. ผลการแข่งการประกวดมารยาทเด็กไทย<br /><a href="http://www.m-culture.go.th/uttaradit/modules.php?op=modload&name=News&file=article&sid=57&mode=thread&order=0&thold=0">http://www.m-culture.go.th/uttaradit/modules.php?op=modload&name=News&file=article&sid=57&mode=thread&order=0&thold=0</a><br /><br />๖. บล๊อกครูธัญญาภรณ์ เจริญผล<br /><a href="http://learners.in.th/blog/bom">http://learners.in.th/blog/bom</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-56102478713940293402008-09-28T20:39:00.000+07:002008-09-28T20:40:08.890+07:00โปสเตอร์ผลงานนักเรียนชั้น ป. 6<p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236818&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236818.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236822&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236822.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236832&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236832.jpg" border="0" /></a></p><p>อยากให้นักเรียนได้ตระหนักถึงมลภาวะทางด้านต่างๆ ก็เลยให้นักเรียนทำโปสเตอร์ตามความคิดของตนเอง ส่วนใครจะคิดอย่างไรก็ให้เขาคิดได้เต็มที่ ผมก็เลยถ่ายรูปมาให้ชมดูความสามารถของเขา</p><p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236826&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236826.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236834&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236834.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236950&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236950.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236956&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236956.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236965&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236965.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11236972&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011236972.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11237041&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011237041.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11237042&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011237042.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11237044&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011237044.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11237046&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview3/011237046.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400653&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400653.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400655&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400655.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400657&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400657.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400734&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400734.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400772&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400772.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400774&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400774.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400775&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400775.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400776&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400776.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400777&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400777.jpg" border="0" /></a> </p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-12699632580696696882008-09-28T20:29:00.000+07:002008-09-28T20:32:59.936+07:00การจัดระบบความคิดโดยการทำ แผนผังความคิด(mind mapping)แผนผังความคิด เป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการมององค์ความรู้ได้ครบถ้วน โดยการเชื่อมโยงความรู้จากแหล่งที่เป็นหัวข้อหลัก แล้วเพิ่มสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้นเข้าไป และเพิ่มเติมอย่างสมเหตุผล ลองฝึกทำบ่อยๆ ก็จะชำนาญครับ แรกๆ ก็อาจจะดูไม่เหมือนกับตัวอย่าง แต่อย่าท้อ เพราะมีประโยชน์จริงๆ ใครทำเป็นประจำและชำนาญก็จะแตกฉานในเรื่องนั้นๆ ครับ<br />เคยใช้แผนผังความคิดให้นักเรียนลองทำดูทำให้นักเรียนมีความคิดที่เป็นระบบมากขึ้น รู้จักการใช้เหตุและผลในการตอบและทำงานต่างๆ ลองมาดูว่าตัวอย่างที่เราได้จากการทำแผนผังความคิดเป็นอย่างไร หากใครไม่ทราบว่าแผนผังความคิดคืออะไร แนะนำให้ลองค้นหาดูนะครับ เพราะเรื่องนี้นำมาใช้ในการเรียนการสอนนานแล้ว<br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133447&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133447.gif" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133448&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133448.gif" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133449&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133449.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133452&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133452.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133453&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133453.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133454&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133454.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133556&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133556.gif" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133557&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133557.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133558&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133558.gif" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133561&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133561.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133562&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133562.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133563&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133563.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133629&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133629.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133630&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133630.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133632&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133632.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133633&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133633.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133634&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133634.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=6133635&owner=kharomp" target="_blank"><img src="http://www.shareapic.net/preview2/006133635.jpg" border="0" /></a> <br />ภาพที่เห็นนี้ได้มาจากการค้นหาในเว็บโดยที่ผมไม่ได้ขออนุญาตมาแต่อย่างไร จึงไม่ควรนำไปขายหรือเพื่อการค้า เพราะอาจมีลิขสิทธิ์ครับ<br />แต่ผลงานข้างล่างนี้เด็กอุตรดิตถ์ทำเอง เรียกน้ำย่อยครับ<p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400297&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400297.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400298&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400298.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400299&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400299.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400301&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400301.jpg" border="0" /></a> </p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2916666715964191398.post-53262278379019187322008-09-28T20:21:00.000+07:002008-09-28T20:27:39.267+07:00ตับใตไส้พุง...สัตว์ สีสันสุดเจ็บ...ฝีมือเด็ก<p><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400362&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400362.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400430&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400430.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400434&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400434.jpg" border="0" /></a><br /> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400436&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400436.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400439&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400439.jpg" border="0" /></a> <a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400440&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400440.jpg" border="0" /></a><br /><a href="http://www.shareapic.net/content.php?id=11400512&owner=handbillmania" target="_blank"><img src="http://preview.shareapic.net/preview4/011400512.jpg" border="0" /></a> </p> มาอีกแล้วสำหรับผลงานเด็กแต่ความสามารถไม่เด็ก คราวนี้เป็นการแสดงอวัยวะภายในร่างกายสัตว์ แต่ละคนก็เลือกคนละอย่าง อันนี้มีตัวอย่างให้ดูนะครับ ดูและชมผลงานของเด็ก ป. 6 เทศบาลท่าอิฐก็แล้วกันครับUnknownnoreply@blogger.com